This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

A beautiful Start

It begins here. Windows 8 and Windows RT.

Make the #switch

It’s colourful. Fast. Takes amazing photos. And that’s just for starters... So many reasons to fall in love with the new Nokia Lumia. Then make the #switch.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันพุธ, สิงหาคม 22, 2555

ระวัง!ซอฟต์แวร์ของ"รถยนต์"ไฮเทคฯ

ในขณะที่ผลกระทบของการใช้ช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ แฮคเกอร์ และผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าโจมตีผ่านเน็ตได้ แต่ช่องโหว่ที่พบในระบบซอฟต์แวร์ของรถยนต์ ซึ่งในทางทฤษฎีมันอาจหมายถึงการใช้ช่องโหว่ดังกล่าวในการขโมยรถยนต์ของคุณได้ ลอบฟังสายสนทนาของผู้ขับขี่รถยนต์ หรือแม้แต่ป่วนระบบนำร่องการเดินทาง (navigator system) จนทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่รถยนต์ได้ การศึกษาของทีมงานได้มีการพิสูจน์แล้วด้วยว่า ในทางทฤษฎีมันเป็นไปได้ที่จะแฮคระบบการแจ้งเตือนในรถยนต์ และปรับเปลี่ยนแรงดันลมยางไปจนถึงกันไม่ให้คุณสามารถเบรครถยนต์ที่กำลังขับได้...โอ้ว...มายก๊อด

 mcafee-viruses-2

อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ยังไม่มีรายงานว่า พบการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ซอฟน์แวร์ในรถยนต์ด้วยไวรัสแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้น แมคอาฟี่ยังคงเดินหน้าด้วยการเตรียมทีมงานให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว เพื่อค้นหาวิธีป้องกันให้กับเทคโนโลยีสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกยัดเยียดเข้าไปในรถยนต์ โดยผู้บริหารฝ่ายระบบรักษาความปลอดภัยให้กับรถยนต์ และยานพาหนะของแมคอาฟี่กล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์ต่างให้ความกังวลกันพอสมควรเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ระบบการทำงานของรถยนต์จะถูกโจมตีผ่านทางช่องโหว่ อืม...น่าคิดนะครับ หากสมาร์ทโฟนที่ติดไวรัสสามารถแทรกตัวเองผ่านเข้าไปทางด็อคของรถยนต์หรู แล้วเข้าไปหยุดระบบเบรค หรือแม้แต่แอบฟังสายโทรศัพท์ของคุณ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ป่วนระบบนำร่องจนคุณขับผิดทิศผิดทางจนเกิดอุบัติเหตุ...น่ากลัวจริงๆ ด้วยสิ

รายงานข่าวล่าสุด หน่วยธุรกิจแมคอาฟี่ (McAfee) ของอินเทล (Intel) กำลังหาวิธีป้องกันไวรัสไม่ให้สามารถเข้าโจมตีช่องโหว่การทำงานของซอฟต์แวร์ของรถยนต์ เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์ได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปในรถมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะมีช่องโหว่เช่นเดียวกับช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยบนพีซี และอุปกรณ์โมบาย

วันศุกร์, กรกฎาคม 27, 2555

ESET NOD32 V.5 - Thai Full + Key ใช้ได้ถึงปี 2017 (แถม Crack)

ESET NOD32 โปรแกรมป้องกันไวรัสที่นิยมมากตัวหนึ่ง ขณะนี้ได้อัพเดตเวอร์ชั่นเป็น 5.2.9 แล้วครับ แต่ตัวที่ผมนำมาลงนี้เป็นเวอร์ชั่น 5.0 นะครับสามารถอัพเดตเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดได้ไม่ต้องกังวลไปครับ โปรแกรมนี้หลายๆท่านอาจเคยพบเห็นมาแล้วเพราะอยู่คู่คอมเรามานานทีเดียว โดยโปรแกรมนี้เหมาะสำหรับ PC/Laptop เนื่องด้วยการไม่กินทรัพยากรมาก และประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง แบบนี้จะรอช้าอยู่ทำไมครับ โหลดไปใช้กันเลย!!

หน้าตาของโปรแกรมครับ

 

eset1

eset2

DOWNLOAD

[32bit] http://www.mediafire.com/download.php?nr6j3nn5s1ra112

[64bit] http://www.mediafire.com/download.php?p5a6mxgtl6m3x39

CRACK: ESETpureFix 2.02

 

ตัวนี้เป็นแครกตัวล่าสุดเลยครับ สามารถแครกได้อย่างแน่นอนผมลองมาแล้วครับ ขั้นตอนการแครกไม่ยากครับ ทำตามขั้นตอนดังนี้ 1.ลงโปรแกรม ESET  2.รีฯเครื่องเข้าไปใน Safe Mode  3.เปิด EsetpureFix 2.02  4. คลิก Enable 5. รีฯเครื่องทีนี้จะอัพเดตได้ตามปกติครับ ส่วนขั้นตอนวิธีการลบแครก (จำเป็นมากหากต้องการลบ ESET) เมื่อต้องการลบ ESET คุณก็จำเป็นต้องลบแครกที่ลงไว้ด้วยครับ โดยก่อนจะลบโปรแกรม ESET ให้ไปที่ Safe Mode เปิด EsetpureFix 2.2 จากนั้นทำการ Disable รีเครื่องแล้วค่อยลบโปรแกรมออกครับ

 

DOWNLOAD

[Crack] http://www.mediafire.com/?awan4khwsbccjna

วันจันทร์, กรกฎาคม 23, 2555

จับเม้าส์ให้ถูกวิธี ลดอาการปวดเมื่อยและบาดเจ็บเอ็นข้อมือ

เม้าส์ เป็นอุปกรณ์ในการควบคุม และบังคับทิศทางในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ทั้งบนพีซี โน๊ตบุ๊กหรือแล็ปท็อปที่ใช้วินโดวส์และแม็ค ซึ่งการใช้งานเม้าส์นั้นสะดวกและคล่องตัวกว่าการใช้งานทัชแพดของโน้ตบุ๊ก แต่ปัญหาที่หลายๆคนประสบเมื่อใช้งานเม้าส์ติดต่อกันนานๆ ก็มักจะมีอาการปวดเมื่อยข้อมือ ไปจนถึงบาดเจ็บเอ็นข้อมือจากการใช้เม้าส์ไม่ถูกวิธี เรามาเรียนรู้วิธีการจับเม้าส์ให้ถูกวิธี ไปจนถึงการเลือกซื้อเม้าส์ให้เหมาะสมกับสรีระของมือเรากันดีกว่า

ภาพจาก http://www.mousearena.com

ภาพจาก http://www.mousearena.com

สำหรับการทำงานของเม้าส์นั้น หลักๆเม้าส์จะมี 2 ปุ่ม คือปุ่มซ้าย และปุ่มขวา ซึ่งปกติ การใช้งานบนวินโดวส์ จะใช้เม้าส์ปุ่มซ้าย สำหรับคนที่ถนัดมือขวา หรือหากใครถนัดมือซ้าย ก็สามารถปรับการทำงานของเม้าส์ได้ (บนวินโดวส์ให้เข้าไปที่เมนู Control Panel > Mouse) จะสามารถตั้งค่าได้ทั้ง TouchPad และเม้าส์) ส่วนปุ่มกลางเป็นล้อสกอลล์เลื่อนหน้าเพจ บางรุ่นอาจจะใช้เลื่อนซ้ายขวาสำหรับการทำเอกสาร Excel แบบแนวนอนได้ด้วย

ในส่วนของ Buttons เราสามารถกำหนดได้ว่า จะให้ปุ่มไหนทำงานเป็นปุ่มหลัก คนที่ถนัดมือขวา (คนส่วนใหญ่) เม้าส์ปุ่มซ้าย จะเป็นปุ่มหลัก อย่างเช่นการกดเลือก หรือกดค้างเพื่อลากแล้ววาง ส่วนคนที่ถนัดมือซ้าย สามารถกำหนดปุ่มขวาให้เป็นปุ่มหลัก ส่วนปุ่มซ้ายเป็นการเข้าเมนูย่อย หรือลากแบบพิเศษ นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดค่าต่างๆของเม้าส์ให้เหมาะสมกับความถนัดของเรา

Double Click Speed ช่วงจังหวะการดับเบิ้ลคลิกของแต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน เราสามารถตั้งค่าความเร็วในการดับเบิ้ลคลิกได้ โดยกำหนดระยะห่างของช่วงเวลาการคลิกในแต่ละครั้ง

Click Lock กำหนดค่าเพื่อให้สามารถลากลูกศรไฮไลท์ตัวอักษรหรือลากโดยไม่ต้องกดปุ่มบนเม้าส์ค้างไว้

การเลือกความละเอียด (DPI) ของเม้าส์ก็สำคัญ

การตั้งค่า Pointer ก็มีผลกับอาการปวดเมื่อยข้อมือเช่นกัน เพราะหากเราเลือกเม้าส์ที่มี DPI สูงๆ (ค่าปกติมักจะใช้เม้าส์ 800DPI) ลูกศรเม้าส์ก็จะวิ่งไวมาก จนตาเราตามแทบไม่ทัน เราสามารถกำหนดความเร็วของลูกศรเม้าส์ได้ หรือหากไม่อยากจะลากเม้าส์บ่อยๆก็เลือก Snap to เพื่อเคลื่อนตำแหน่งลูกศรไปยังปุุ่มบนหน้าต่างของวินโดวส์ โดยที่เราไม่ต้องเลื่อนเม้าส์บ่อยๆ

ส่วน Visibility เป็นลูกเล่นเผื่อใครมองหาลูกศรเม้าส์ไม่เจอ ก็ตั้งให้มีเงาตามลูกศร หรือใครพิมพ์งานบ่อยๆ ก็ตั้งให้ซ่อนลูกศรขณะพิมพ์ เมนูในส่วนนี้เราสามารถปรับให้เหมาะสมกับความถนัดของเราได้

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ใช้เม้าส์

ภาพการจับเม้าส์ จาก http://www.help4computerdummy.com

ภาพการจับเม้าส์ จาก http://www.help4computerdummy.com

1. วางเม้าส์ใกล้คีย์บอร์ดและอยู่ในตำแหน่งที่มือเอื้อมถึง – การวางเม้าส์ไกลจนเกินไป จะส่งผลทำให้ปวดเมื่อยไหล่ จากการเอื้อมสุดแขน และอาจจะส่งไปถึงอาการปวดคอด้วย

2. กำหนดพื้นที่วางเม้าส์ให้ถูกต้อง หากคุณใช้โต๊ะวางคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (เช่น 80 เซ็นติเมตร) อาจจะมีพื้นที่วางคีย์บอร์ด แต่ไม่มีพื้นที่วางเม้าส์ ทำให้ต้องวางไว้เม้าส์บนโต๊ะแทน เป็นสาเหตุให้คุณปวดแขน ปวดไหล่ แถมยังร้าวไปถึงคอได้อีก ควรวางเม้าส์ข้างซ้ายหรือขวา ตามแขนข้างที่ถนัด ใกล้คีย์บอร์ด และอยู่ในองศาที่จับถนัดมือโดยไม่ห่อไหล่ หรือผู้ผลิตอย่าง The Green Case ได้จัดทำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกำหนดพื้นที่ในการวางเม้าส์ และการวางมือให้เหมาะสมดังภาพ

ภาพจาก http://www.behance.net/MikaBecktor/frame/2776341

ภาพจาก http://www.behance.net/MikaBecktor/frame/2776341

3. วางตำแหน่งเม้าส์ให้เหมาะสม หากโต๊ะคอมพิวเตอร์เล็กเกินไป ควรพิจารณาหาแผ่นรองเม้าส์ที่วางข้างคีย์บอร์ดได้ เพื่อให้เม้าส์อยู่ใกล้คีย์บอร์ดให้มากที่สุด หากใช้พีซี เม้าส์ควรจะอยู่ข้างแป้นคีย์บอร์ดข้างๆกับแป้นตัวเลขบนคีย์บอร์ด ควรวางเม้าส์อยู่เยื้องกับแป้นคีย์บอร์ดนิดหน่อย หรือหากถาดวางคีย์บอร์ดสามารถวางเม้าส์ด้านข้างได้ พยายามวางมุมของเม้าส์ให้เหมาะสมกับการวางแขน อย่าวางเม้าส์ข้างคีย์บอร์ดพอดีหรือเลื่อนต่ำกว่าคีย์บอร์ดเพราะจะทำให้องศาการวางมือเราผิดเพี้ยนไป หรือหากใช้โน้ตบุ๊ก ควรวางระยะห่างของโน้ตบุ๊กกับลำตัวเพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งแป้นพิมพ์และทัชแพด


4. ปรับแต่งเม้าส์หรือแทร็คบอล จากซอฟต์แวร์ – ผู้ผลิตเม้าส์หลายราย มีซอฟต์แวร์ในการปรับแต่งเม้าส์ หรือทัชแพดมาให้คุณปรับแต่งได้มากกว่าตัวจัดการเม้าส์ของวินโดวส์เอง หากเม้าส์ของคุณมาพร้อมแผ่นไดร์เวอร์ ก็ติดตั้งเพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ผู้ผลิต

5. ลองพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์ควบคุมการใช้งานลูกศรแทนเม้าส์ เพื่อลดการเคลื่อนไหวของข้อมือและแขน อย่างเช่น แทร็คบอล (Trackball) เป็นอุปกรณ์ช่วยลดการขยับและเคลื่อนไหวหัวไหล่ ลดระยะการบิดไหล่ เพียงแค่ใช้นิ้วและอุ้งมือ ข้อมือ บังคับแทร็คบอล เม้าส์บางรุ่น บางยี่ห้อ ใช้งานคล้ายกับจอยสติ๊ก นอกจากนี้คุณสามารถใช้ทัชแพด หรือเม้าส์ปากกา หรืออุปกรณ์อื่นๆที่ช่วยให้คุณใช้งานได้สะดวกสบายที่สุด หรือแนะนำเม้าส์แห่งอนาคตอย่าง SwiftPoint ซึ่งใช้การจับเหมือนกับการจับปากกา

6. พิจารณาเลือกอุปกรณ์ที่มีขนาดเหมาะสมกับรูปทรงสรีระข้อมือ – เม้าส์ที่จำหน่ายในท้องตลาดจะมีขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ต่างกัน ดังนั้นเราควรพิจารณาเม้าส์ที่เหมาะกับข้อมือของเรา ทดลองจับเม้าส์ตามห้างไอทีต่างๆ หรือมีเม้าส์บางรุ่นที่เป็นมินิเม้าส์แต่สามารถใส่หน้ากากครอบกลายเป็นเม้าส์ใหญ่ หรือเม้าส์ใหญ่ ถอดออกมาเป็นเม้าส์เล็กได้

ตัวช่วยในการเลือกซื้อเม้าส์

หากคุณไม่แน่ใจว่า ควรจะซื้อเม้าส์แบบไหนดี แนะนำให้พิจารณาก่อนว่า งานหลักๆที่คุณใช้นั้น เน้นใช้งานด้านใด เช่น ทำงานเอกสาร ใช้งานอินเทอร์เน็ต โซเชียล เน็ตเวิร์คผ่านบราวเซอร์ เล่นเกมส์บน Facebook หรือเล่นเกมส์ออนไลน์ ออฟไลน์ เพราะการตอบสนองเม้าส์สำหรับงานแต่ละอย่างนั้นไม่เหมือนกัน เรามีตัวช่วยในการพิจารณาการเลือกเม้าส์จากผู้ผลิตเม้าส์เกมอย่าง Razer ได้จัดทำ Razer Mouse Selection Advisor เพื่อช่วยในการเลือกเม้าส์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

ข้อมูลจาก Healthy Computing Mouse Arena it24hrs

วันเสาร์, กรกฎาคม 14, 2555

ระวังแอพอันตรายแฝงมัลแวร์ ยังระบาดบนมือถือ แท็บเล็ต Android กว่า 20,000 แอพ

มีรายงานล่าสุดจากบริษัท Trend Micro บริษัทด้านโปรแกรมกำจัดไวรัสมัลแวร์  ว่า พบแอพอันตรายที่ระบาดบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฎิบัติการ Android   โดยทีมงาน Trend Micro พบแอพอันตรายใหม่ 5,000 แอพในรอบ 3 เดือน แรกช่วงมกราคม – มีนาคม แต่ 3 เดือนต่อมา ( เมษายน – มิถุนายน ) มีแอพอันตรายระบาดมือถือ Android  มากถึง 20,000 กว่าแอพ   โดยแอพอันตรายส่วนใหญ่จะอยู่ในแอพร้านค้าอื่น (Store)  ที่ไม่ใช่ (Google Play Store )และมีประมาณ 17 แอพที่พบใน Google Play ที่เป็นแอพอันตราย แต่… มีการดาวโหลดไปแล้วรวมกว่า 7 แสนครั้งก่อนถูกถอดออกจาก  Google Play Store

จากข้อมูลพบประมาณ 30 % ของแอพอันตรายบน Android ได้ปลอมเป็นแอพที่ดูว่าถูกกฎหมาย และอ้างว่าเป็นแอพยอดนิยมแบบผู้ใช้ไม่สงสัยว่าแอพนี้มันมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ เจตนาของมัลแวร์ที่แฝงในแอพปลอมหรือแอพอันตรายที่ว่านี้ จะแฝงไปด้วยแอพโฆษณาบนมือถือ หลอกเหยื่อให้เสียเงินบัตรเครติต  ขโมยข้อมูลส่วนตัว หรือล้วงแฮกแอพธุรกรรมการเงิน โดยที่คุณไม่รู้ตัว บางครั้งเหล่าพวกมิจฉาชีพจะอาศัย GPS ในการติดตามเหยื่อ หรือแอบอ่านข้อความลับส่วนตัวของคุณ ทั้งอีเมลล์ และ ข้อความสั้น SMS  ได้ด้วย

คาดว่าภายในสิ้นปี 2012 จะพบแอพอันตรายบนโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android กว่า 129,000 แอพ ซึ่งผู้ใช้มือถือหรือแท็บเล็ต ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการดาวน์โหลดแต่ละแอพที่คุณโหลด โดยคุณควรอ่านรีวิวและพิจารณาว่าแอพนี้น่าเชื่อถือหรือไม่? และทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ควรมีโปรแกรม Antivirus มาช่วยตรวจสอบมัลแวร์บนแอพต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในตัวโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และข้อมูลส่วนตัวของคุณ

ข้อมูลจาก Trend Micro , Android Authority , it24hrs

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 12, 2555

GifBoom แอพถ่ายภาพนิ่งเคลื่อนไหวแบบ Stop Motion ที่กำลังมาแรง

หลังจากที่หลายๆคนได้ฮิตกับแอพถ่ายภาพนิ่งพร้อมแต่งภาพด้วยฟิลเตอร์เด็ดๆจาก แอพ Instagram ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นแอพยอดนิยมทั้งบน iOS และ Android เรียบร้อย แต่ในช่วงนี้มีแอพถ่ายรูปแชร์ขึ้น Social network แบบใหม่ที่ด้วยขั้นตอนการใช้งานคล้ายคลึงกับ Instagram แต่ความสามารถที่ได้เห็นแบบภาพเคลื่อนไหว Stop Motion พร้อมกับสามารถตกแต่งกรอบและใส่ข้อความ ได้  จนทำให้แอพนี้เริ่มมีการบอกต่อและมีคนใช้งานแอพ GifBoom จนเป็นที่รู้จักมากขึ้น

แอพ GifBoom: Animated GIF Camera พัฒนาโดย TapMojo LLC กำลังเป็นแอพที่มาแรง หลังจากที่ Instagram ฮิตไปสักพัก ที่มาแรงช่วงนี้เพราะเนื่องจากกระแสผู้ใช้ instagram ได้ลองแอพ GifBoom แล้วติดใจ แนะนำบอกต่อผ่าน Social network ไม่ว่าจะเป็น facebook  , twitter , imessage , และทาง Instagram ชวนเพื่อนๆมาใช้ GifBoom กัน ซึ่งทั้งนี้มีศิลปินนักร้อง ดารานักแสดง และบุคคลที่มีชื่อเสียงก็ได้ลองใช้ GifBoom ด้วย และบอกต่อกับเพื่อน ๆ ทำให้แอพนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ด้วยขั้นตอนที่ใช้งานง่าย และมีความสามารถบางอย่างที่ Instagram ไม่สามารถทำแบบเหมือน Gifboom ได้ ก็คือภาพเคลื่อนไหวแบบ stop motion นี่เอง วันนี้จึงนำเสนอขั้นตอนการใช้งาน Gifboom แบบคร่าวๆ ให้ผู้ที่ไม่เคยลองโหลดแอพนี้ได้มารู้จักและลองใช้กัน

เริ่มจากดาวน์โหลดติดตั้งแอพ GifBoom  ซะก่อน ซึ่งสามารถโหลดฟรีผ่านทาง App Store และ Google Play

แล้วก็ทำการเปิดแอพ GifBoom เพื่อเริ่มใช้งาน แล้วให้ทำการ login โดยสามารถ sigin in ด้วย facebook , twitter ได้ทันที  หรือจะสมัครสมาชิกใหม่ด้วยอีเมลล์ของท่านเอง

เมื่อเข้าสู่ระบบของ GifBoom แล้ว  จะพบหน้าตาแบบนี้ โดยจะพบ 5 ไอคอนสำคัญ ที่อยู่ด้านล่าง คือ

  1. Feed สำหรับติดตามภาพนิ่ง , ภาพเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ ที่เราติดตาม follow เค้าอยู่
  2. Popular ดูภาพยอดฮิตที่มีคนชมหรือคน Like มากที่สุด  หรือสามารถชมภาพถ่ายล่าสุดจากสมาชิกใน GifBoom ได้
  3. Camera โหมดถ่ายรูป โดยถ่ายแบบภาพนิ่งมาประกอบกันเป็นภาพเคลื่อนไหว
  4. Comment Notification  แจ้งเตือนการ Comment และการติดติดตาม ว่ามีเพื่อนคนไหนโพสความเห็น หรือติดตามเราบ้าง
  5. setting หน้าสำหรับการตั้งค่าต่างๆ ซึ่งมีทั้งตั้งค่าการแชร์ภาพ  , หาเพื่อนๆ , หาภาพ  ตั้งค่าโปรไฟล์ของเรา และตั้งค่าอื่นๆอีกมากมาย

สำหรับการถ่ายรูปนั้นขั้นตอนคล้ายคลึงกับ  instagram โดยแตะที่รูปกล้องถ่ายรูป (ไอคอนที่ 3 Camera )  เพื่อเข้าสู่โหมดของการถ่ายภาพ  จากนั้นก็แตะที่รูปกล้องถ่ายรูปเพื่อเริ่มถ่ายภาพนิ่ง  แต่จะไม่ใช่แค่ถ่ายช็อตเดียวแบบภาพนิ่งทั่วไป จะถ่ายหลายช็อตต่อเนื่องไปเรื่อยๆ  ถ่ายเรื่อยๆจนกว่าแตะที่ไอคอน กล้อง อีกครั้ง เพื่อหยุดถ่ายและแสดงเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ stop motion นี่เอง   หรือหากคุณมีภาพหลายภาพในเครื่องอยู่แล้ว ก็สามารถนำภาพที่มีมาเลือกเป็นภาพประกอบเคลื่อนไหวได้ด้วย โดยแตะที่ import เลือกรูปจากในโทรศัพท์ที่ต้องการมาใช้ในการเรียงภาพนิ่งทำภาพเคลื่อนไหว   จากนั้น แตะที่ next เลือกรูปภาพที่ต้องการมารวมเป็นภาพเคลื่อนไหว แล้ว next เพื่อดู Preview การเคลื่อนไหวอีกที

เมื่อดูว่าพอใจ สามารถใส่กรอบ ใส่ฟิลเตอร์ และพิมพ์ข้อความลงบนภาพได้ตามต้องการ แล้ว แตะที่ next

สุดท้ายคือพิมพ์ข้อความทวิต หรือ โพสสถานะต่างๆ พร้อมที่จะขึ้นบน social network ต่างๆ เช่น facebook twitter  และ tumblr สามารถส่งภาพไปยังอีเมลล์เพื่อนๆ และส่งภาพผ่านบริการ iMessage บน อุปกรณ์ iOS อย่าง iPhone , iPod Touch และ iPad ได้

แค่นี้ก็จะได้ภาพเคลื่อนไหวบน GifBoom ที่เกิดจากนำภาพนิ่งจากการถ่ายรูปด้วยมือถือ มาเรียงต่อกันเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้ว และภาพนี้ก็จะปรากฎบน Feed ของ GifBoom ของเพื่อนๆ และ Social Network ที่คุณต้องการแชร์

วิธีหาเพื่อนๆของคุณที่ เล่นแอพ  GifBoom ก็สามารถทำได้ดังนี้

เลือกไอคอน setting (บริเวณด้านล่างขวาของจอ)  จะปรากฏรายการต่างๆ ให้เลือก Find Friends

สามารถหาเพื่อนๆที่อยู่ใน  facebook twitter รายชื่อบนมือถือ และอีเมลล์เพื่อนๆของคุณที่เล่น GifBoom อยู่แล้ว แค่นี้คุณก็มีเพื่อนที่จะได้ตามไปดูรูปภาพเคลื่อนไหวที่เพื่อนๆ โพสแชร์ภาพผ่าน GifBoom

หากใครอยากจะลองใช้ GifBoom ในการแชร์ภาพเคลื่อนไหว .gif ให้กับเพื่อนๆ ได้ดูละก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ผ่านทาง App Store และ Google Play

ที่มา: it24hrs

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 05, 2555

รู้หรือไม่ ผู้ใช้ facebook ถูกเปลี่ยนให้แสดงอีเมล์บนหน้าโปรไฟล์เป็น @facebook.com แล้ว…วิธีเปลี่ยนกลับทำอย่างไร

หากใครชอบดูหน้าประวัติของเพื่อนๆบน facebook โดยเฉพาะในส่วนของอีเมลล์ ที่ตามปกติมักจะเห็นหน้าแสดงอีเมลล์ส่วนตัวอย่าง @Hotmail.com , @gmail.com หรือ @yahoo.com หรือเมลล์อื่นๆในหน้าโปรไฟล์ของ facebook แต่.. เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา facebook ได้ปรับเปลี่ยนให้เหลือแสดงแค่ @facebook.com เท่านั้น โดยเปลี่ยนแทบทุกบัญชีใน facebook เลย

บางคนก็อาจ ok พอใจ  ได้ปิดบังเมลล์ส่วนตัว แต่ก็มีหลายท่านที่ต้องการแสดงที่อยู่อีเมลล์ส่วนตัวของตัวเองไว้เพื่อกรณีติดต่องานสำคัญเป็นต้น ซึ่งเราสามารถแก้ให้แสดงอีเมลล์ส่วนตัวของเราได้ตามปกติได้ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

เข้าหน้า Facebook Profile ของคุณ แล้วเลือกคลิกที่ที่ “เกี่ยวกับ” ซึ่งอยู่ตรงบริเวณใต้ภาพประจำตัวของเรานี่เอง

จากนั้นก็เลื่อนหน้าจอลงมาดูที่ข้อมูลในส่วน ข้อมูลติดต่อ จะพบว่าในส่วนโชว์อีเมลล์ของเรายังแสดงเป็น username@facebook.com อยู่ ไม่มีรายชื่อเมลล์ส่วนตัวที่เคยใส่อย่าง @hotmail , @yahoo , @gmail และเมลล์อื่นๆเลย วิธีให้กลับมาแสดงเหมือนเดิม ให้คลิกไปที่ แก้ไข ดังรูปภาพบน

จะเห็นได้ว่าพบอีเมลล์ @hotmail ซึ่งเป็นเมลล์ส่วนตัวแล้ว เพียงแค่ไม่แสดงในหน้าโปร์ไฟล์ เพราะ Facebook ได้ซ่อนเมลล์นี้นี่เอง (ตามวงกลมสีชมพู) ให้คลิกตามวงกลมสีชมพูนี้จะพบรายการย่อย

จะพบเมนูรายการย่อยว่าเมลล์ Hotmail ของเราอยู่ในสถานะซ่อนจากไทม์ไลน์ นี่เอง ให้เลือกกลับมาที่ แสดงบนไทม์ไลน์ แล้วคลิก บันทึก เพียงเท่านี้อีเมลล์ส่วนตัวอย่าง Hotmail ก็จะมาแสดงบนหน้าโปรไฟล์ของเราเหมือนเดิมแล้ว

ข้อมูลจาก Gizmodo iT24Hrs

วันพุธ, กรกฎาคม 04, 2555

Android App ซ่อนไฟล์ Pandora

มาละครับกับโปรแกรสำหรับการซ่อนไฟล์ ซ่อนรูปหรือวิดีโอ ซึ่งบางครั้งการเก็บรูปภาพหรือวิีดีโอบางอย่างเราก็อยากจะให้มันเป็นความรับต่อบุคคลรอบข้างเพราะมือถือหรือ แทบเล็ต อาจจะวางไว้ที่โต๊ะซึ่งก็จะสามารถถูกแอบเอาไปเปิดดูได้ ซึ่งถ้าเราได้ติดตั้ง App ซ่อนไฟล์ตัวนี้ไปแล้ว คนที่ไม่มีรหัสก็ไม่สามารถที่จะเข้าดูได้ครับ

ติดตั้ง Android App ซ่อนไฟล์ Pandora V 1.4.3

App ตัวนี้ใช้งานไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแค่เราติดตั้ง App Pandora เข้าไปแล้ว เมื่อต้องการที่จะซ่อนรูปภาพ หรือ วีดีโอตัวไหน เราก็สามารถเลือกได้ว่าให้ Hide Photo as Private เพียงเท่านี้ เมื่อเสร็จแล้วเวลาที่เราทำการคลิกมันก็จะเรียกให้เราใส่ รหัสผ่านซึ่งถ้ารหัสผ่านไม่ถูกต้องก็จะไม่สามารถเข้าไปใช้งานได้

ตัว App Pandora หรือ Android App ซ่อนไฟล์นี้ เค้าให้เราใช้กันฟรีๆ ไม่เสียตั้ง ดังนั้นอย่าได้รอช้าเลยครับรีบติดตั้งลงไปในเครื่อง Android เพื่อให้ความลับของคุณจะยังคงอยู่ต่อไปครับ

 

ที่มา: androidappinw

วันจันทร์, กรกฎาคม 02, 2555

ระวัง!! อาชญากรรมออนไลน์ เตรียมยกระดับโจมตีผ่านทางเทคโนโลยี Cloud

มีรายงานข่าวที่น่าสนใจจาก cnet ที่เสนอผลวิจัยจาก McAfee and Guardian Analytics ได้นำเสนอวิเคราะห์อาชญากรรมทางออนไลน์ คาดว่าจะพบเหตุอาชญากรรมโลกไซเบอร์ยกระดับผ่านทางเทคโนโลยีกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) มากขึ้น

ซึ่งตามรายงานพบมีเหตุการณ์โอนเงินจำจเงินมหาศาลผ่านทางธนาคารออนไลน์ใน ทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา และอเมริกาใต้ โดยมันมาจากการที่เหยื่อหลงคลิกลิงค์จากพวกอีเมลล์หลอกลวงที่อ้างเป็นธนาคารว่า Phishing (ฟิชชิ่ง) นี่เอง แต่ครั้งนี้ใหญ่กว่านั้น

โดยลิงค์นี้จะชวนเปลี่ยนรหัส password เมื่อคลิกไประหว่างนั้นจะมีการดาวน์โหลดพวกโทรจันและมัลแวร์ติดไว้ในเครื่อง ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณตกเป็นเหยื่อของพวกมัลแวร์ทันที และคอยดักเข้าสู่เว็บไซต์ธนาคารที่คุณใช้ผ่านทางบราวเซอร์  หากดูกรณีนี้จะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าหากมัลแวร์ติดบนเครื่อง server ที่เป็น Cloud ขึ้นมาความเสียหายนี้มหาศาล ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สามารถดูเหตุกรณีศึกษาได้จากข่าว cnet  และผลวิเคราห์จากทางหน่วยงานMcAfee and Guardian Analytics

ข่าวนี้จะเป็นการเตือนหน่วยงานไอทีต่างๆ ในเรื่องระบบความปลอดภัยของ Cloud ที่ คาดว่าหน่วยแฮ็คเกอร์หรืออาชญากรรมทางโลกออนไลน์จะยกระดับเตรียมโจมตีผ่านทาง Cloud Computing มากขึ้นกว่าพวก  Network PC  ในอนาคต โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่มีโครงการจะเตรียมนำข้อมูลต่างๆของประชาชนมาขึ้น Cloud Computing ก็ต้องให้ความสำคัญมากในเรื่องระบบความปลอดภัยเป็นอันดับแรกด้วย

ข้อมูลจาก cnet

วันจันทร์, มิถุนายน 25, 2555

เล่น Instagram บนคอมพิวเตอร์ได้ด้วย 10 เว็บไซต์ต่อไปนี้

สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้อินสตาแกรมหลายๆ คนอาจจะแอบฝันอยากให้มี (แต่ก็ไม่มีซะที) ก็คือความสามารถในการเล่น Instagram บนหน้าเว็บเนอะ ทำไมถึงไม่ยอมทำก็ไม่รู้ (อาจเพราะจุดประสงค์ของอินสตาแกรมคือต้องเล่นบนมือถือเท่านั้นก็เป็นได้) กระนั้นเลย ก็ยังมีคนทำ web service ออกมาให้เราสามารถส่องรูปบน Instagram ผ่านหน้าเว็บได้สะดวกโยธิน และนี่คือ 10 เว็บไซต์ที่จะแนะนำกันฮับ ซึ่งแต่ละเว็บที่เอามาแนะนำนั้นก็มีสไตล์เฉพาะตัวต่างๆ กันไป แต่เว็บไหนดีกว่าเว็บไหนนี่ก็ต้องไปลองใช้กันเอาเอง ใช้เสร็จแล้วรู้สึกว่าเว็บไหนเจ๋ง ก็คอมเมนต์มาให้อ่านกันได้เด้อค่ะเด้อ

1. Extrag.am

ล็อกอินเพื่อดูโปรไฟล์ตัวเองได้, ค้นหารูปจากแท็กได้, ดูรูป Popular ได้ (แต่บังคับให้ใส่อีเมลก่อนใช้งานเว็บนะ)

2. Intstagre.at

ดูรูป Popular ได้ผ่านการไถ scroll mouse รัวๆ

3. Pinstagram.co

ดูรูป Instagram ในสไตล์ Pinterest แถมกด Pin รูปที่ชอบเข้า Pinterest ได้จริงๆ ด้วยนะ

4. Followgram.me

อันนี้เหมาะสำหรับแบรนด์ทั้งหลาย ถ้าสมัครเว็บนี้แบบ Pro จะสามารถสร้าง Instagram Brand Page ใน Followgram ได้แหละ (ไม่งงนะ)

5. Gramfeed.com

ค้นหารูปในอินสตาแกรมจาก location ได้

6. Hashtagram.com

ดูรูปในอินสตาแกรมจาก hashtag แบบ slide show ใหญ่เบ้งๆ

7. Web.stagram.com

ส่วนตัวใช้เว็บนี้ในการดูรูปอินสตาแกรมอยู่ ฟีเจอร์ดี ดูง่าย ใช้สะดวก

8. Ink361.com

มีฟีเจอร์สร้างอัลบั้มได้ด้วย

9. Webbygram.com

เว็บนี้บอกว่าสร้างมาเพราะเหนื่อยที่จะรอให้อินสตาแกรมสร้าง web app ของตัวเองเต็มทน (ฮา)

10. Instagrid.me

ดูรูป Instagram ได้สบายตา ดูได้ทั้ง List View และ Grid View

0000.jpg

 

ที่มา: faceblog.in.th

วันอาทิตย์, มิถุนายน 24, 2555

ทำ Facetime บน iPad2, iPhone4 ได้แม้ไม่มี Wi-Fi

Facetime เป็นการติดต่อสื่อสารกันในรูปแบบวีดีโอคอล (คุยแบบเห็นหน้า)  โดยไม่ต้องพึ่งเครือข่าย 3G แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างในการใช้ Facetime คือ ต้องใช้ผ่านเครือข่าย WiFi เท่านั้นหากไม่มีสัญญาณ Wi-Fi ก็จะไม่สามารถใช้Facetimeได้  แม้ iPad2 จะอยู่ในสัญญาณ 3G ก็ตาม เพราะทาง Apple บังคับให้ใช้ผ่านทาง Wi-Fi เท่านั้น แต่… ถ้ามี iPhone4 กับ มีโทรศัพท์android ,  แท็ปเล็ต Android นำมาทำ wifi hotspot ก็สามารถใช้ facetime ได้ ด้วยวิธีต่างๆดังนี้

วิธีที่ 1 ใช้ตัว MiFi กระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ iPad2 สามารถ Facetime ได้

1. ใช้ Mifi ของคุณ ใส่ซิม 3G เข้าไปใน MiFi พาไปที่พื้นที่บริการที่มี 3G
(ทดลองกับซิมที่เป็น edge/gprs แล้ว ระบบอนุญาติให้ทำ facetime ได้ แต่ภาพแทบไม่ขยับ จึงไม่แนะนำให้ใช้เพราะความเร็วไม่เพียงพอ)

2. เปิดการทำงานของ Mifi กระจายสัญญาณWifi ในความเร็วแบบ 3G

3. เปิด iPad2 เข้าโหมดเปิด Wi-Fi เลือกรับสัญญาณ จากตัว Mifi   แค่นี้ก็ Facetime ได้แล้ว

วิธีที่ 2 ใช้ Personal Hotspot ผ่าน iPhone4 ของคุณ

เนื่องจาก iOS 4.3 สำหรับ iPhone4 นั้นสามารถกระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้ด้วย ก็สามารถช่วยให้ iPad2 เล่น Facetime ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. โทรศัพท์มือถือ iPhone4 ต้องใส่ซิม 3G
(ทดลองกับซิมที่เป็น edge/gprs แล้ว ระบบอนุญาติให้ทำ facetime ได้ แต่ภาพแทบไม่ขยับ จึงไม่แนะนำให้ใช้เพราะความเร็วไม่เพียงพอ)

2.  อัพเกรด Firmware ของ iPhone4  ให้เป็น iOS 4.3

3. เดินเข้าเขตพื้นที่บริการ 3G เปิดการเชื่อมต่อข้อมูล 3G  บน iPhone4

4. เข้าเมนู Setting เลือก Personal Hotspot  เปิดการทำงาน Personal Hotspot บน iPhone4 เพื่อกระจายสัญญาณ Wifi ในความเร็วบน 3G ของตัว iPhone4

5. เปิด iPad2 เข้าโหมดเปิด Wi-Fi เลือกรับสัญญาณจาก Personal HotSpot ของ iPhone4

iPad2 ก็เริ่ม Facetime ได้โดยมี iPhone4 กระจายสัญญาณ Wi-fi เป็นเพื่อนคู่ใจกับ iPad2 ได้เป็นอย่างดี

วิธีที่ 3 ใช้ Wi-Fi Hotspot จาก โทรศัพม์มือถือและแท็ปเล็ต Android

ทั้งโทรศัพท์มือถือ และแท็ปเล็ต ที่มีระบบปฏิบัติการ Android 2.2 , 2.3 , 2.4 , 3.0 ก็สามารถกระจายสัญญาณ Wi-Fi ช่วยให้ iPad2 เล่น Facetime ได้ด้วย โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. โทรศัพท์มือถือ หรือ แท็ปเล็ต จะต้องมีระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.2 , 2.3 , 2.4 และ 3.0 และรองรับคุณสมบัติ 3G

2. ใส่ซิม 3G ลงไปในโทรศัพท์มือถือ หรือ แท็ปเล็ต
(ทดลองกับซิมที่เป็น edge/gprs แล้ว ระบบอนุญาติให้ทำ facetime ได้ แต่ภาพแทบไม่ขยับ จึงไม่แนะนำให้ใช้เพราะความเร็วไม่เพียงพอ)

3. เปิดเครื่องแล้ว เปิดการเชื่อมต่อข้อมูลแบบ 3G

4. กดเข้าเมนูเลือก setting >> แล้วเลือก Wireless And Network   และ เปิด  Mobile AP หรือ Portable  Wi-Fi Hotspot เพื่อเปิดการทำงาน Wi-Fi Hotspot บนโทรศัพท์มือถือ Android กระจายสัญญาณ WiFi ไปยังเครื่องรับ wi-fi ต่างๆ

5.เปิด iPad2 เข้าโหมดเปิด Wi-Fi เลือกรับสัญญาณจาก Wi-Fi HotSpot ของโทรศัพท์มือถือและแท็ปเล็ต ที่เป็น Android

iPad2 ก็สามารถเล่น Facetime ได้ผ่านอุปกรณ์มือถือและ แท็ปเล็ต ที่เป็น Android ได้ดี (เข้ากันได้จริงๆ)

ทั้งตัว Mi-Fi และ รวมทั้ง smartphone ที่มีคุณสมบัติเป็น Wi-Fi Hotspot นี้  นอกจากจะสามารถใช้ร่วมกับโทรศัพท์มือถือ iPhone4  iPod Touch และ iPad เพื่อทำการ Facetime แล้ว ยังสามารถแชร์สัญญาณ wifi นี้  ให้กับอุปกรณ์อื่นๆที่รองรับด้วย Wi-Fi เช่น กล้อง , Notebook , โทรศัพท์มือถือ เหมือนคุณมีสัญญาณ Internet เคลื่อนที่ติดตัวตลอดเวลา และแบ่งปันสัญญาณ wi-fiของเราให้เพื่อนร่วมทีม สามารถใช้เน็ตได้

 

เครดิต: it24hrs