This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

A beautiful Start

It begins here. Windows 8 and Windows RT.

Make the #switch

It’s colourful. Fast. Takes amazing photos. And that’s just for starters... So many reasons to fall in love with the new Nokia Lumia. Then make the #switch.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ notebook แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ notebook แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธ, สิงหาคม 27, 2557

ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราไลค์เพจไหนบน Facebook มาดูกัน

การใช้งานเฟสบุ๊คนั้น บางทีก็เป็นเรื่องที่ส่วนตัวมากๆ กับการที่เราจะไปรู้จักใครหรือไปเป็น Friend กับใคร แต่บางทีก็เลือกไม่ได้ในการที่จะต้องบอกให้คนอื่นๆ เค้ารู้ด้วย (ไม่รู้ว่าอยากรู้รึเปล่า) เพราะก็เป็นสังคมออนไลน์ ซึ่งหลายครั้งก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวที่ทำให้คนที่เป็น Friend กับเราได้ทราบถึงตัวตนของเราว่าเป็นแบบใด

Facebook Like-0

โดยเฉพาะการ Like Page ก็เป็นดัชนีอีกตัวหนึ่งที่อาจทำให้คนอื่นเข้าใจเรามากขึ้น ว่าเราจะชอบอะไรแบบไหน ซึ่งก็เป็นเรื่องดี แต่ในทางกลับกัน หากเป็นเพจที่เป็นส่วนตัวจริงๆ อาจจะมีจุดประสงค์หรือเหตุผลหรือไม่ในการที่จะ Like เพจนั้นๆ แต่กลัวว่าเมื่อ Like ไปแล้ว จะทำให้คนอื่นมองไม่ดี ก็ทำให้เราพลาดโอกาสไปได้เหมือนกัน หากไม่ได้ Like หน้าเพจนั้นๆ ซึ่งวันนี้เรามีวิธีที่จำทำให้คุณไป Like เพจต่างๆ บน Facebook ได้แบบส่วนตัว ไม่ต้องกลัวคนอื่นมาเห็น ด้วยวิธีการง่ายๆ คือ

Facebook Like-1

1

Log-on เข้าไปที่หน้า Timeline บนเฟสบุ๊คของคุณเอง จากนั้นดูที่แถบทางด้านซ้ายมือ

Facebook Like-2

2

ในหน้าของ Timeline ให้ดูที่ซ้ายมือ เลื่อนลงมาเรื่อยๆ จะมีแถบของ Like ปรากฏอยู่ ในนั้นจะมีเพจที่คุณไป Like เอาไว้

Facebook Like-3

3

ให้คลิกที่ Edit หรือที่เป็นเครื่องหมายปากกา ที่แสดงอยู่มุมขวาของกรอบ Like นั้น

Facebook Like-4

4

เลือกที่บรรทัดล่างสุดในหัวข้อ Edit Privacy

Facebook Like-5

5

จะมีหน้าต่าง Edit Privacy of Likes ปรากฏขึ้น ให้เราคลิกไปยังรูปโลกด้านท้ายในแต่ละหัวข้อที่ต้องการ เลือกกำหนดว่าให้ใครเห็นที่เรา Like บ้าง มีให้เลือกทั้ง Public, Friend, Friends except acquaintances หรือ Only me

ซึ่งหากต้องการให้เป็นส่วนตัวมากๆ และไม่อยากแชร์ให้ใครได้เห็นเลยว่าเรา Like เพจใดบ้าง การเลือก Only Me ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการ เพราะเห็นได้เฉพาะเราเท่านั้น

 

 

ที่มา : notebookspec

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 24, 2557

20 สิ่งน่ารู้ และเคล็ดลับใน Windows 8.1

20 สิ่งน่ารู้ และเคล็ดลับใน Windows 8.1

คุณอาจจะเห็นว่า Windows 8.1 นั้นหน้าตาคล้ายหรือเหมือนกับ Windows 8 ซึ่งถ้าดูเผินๆ อาจจะเห็นว่าไม่มีอะไรแต่ต่างกันเลย ! แต่จริงๆ แล้วถ้าสังเกตุดีๆ ก็จะเห็นความแตกต่างกันอยู่หลายจุดกันเลยทีเดียว วันนี้เราจึงนำเกร็ดสาระน่ารู้และเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ Windows 8.1 มาฝากกัน


1. บูทเดสก์ท็อป

Boot desktop

วิธีนี้จะเป็นการบูทหน้าเดสก์ท็อปขึ้นมาหลังจากเปิดเครื่อง แทนที่จะบูทหน้าจอสตาร์ท (หน้า Metro)

ขั้นตอน: 1. ไปที่หน้า Desktop >> 2. ครั้งขวาที่ taskbar และเลือก 'Properties' >> 3. เลือกหัวข้อ Navigation tab >> 4. ให้ติ๊กที่ 'Go to the desktop instead of Start when I sign in'

2. ค้นหาแอพพลิเคชั่น

find apps

หน้าจอสตาร์ท (หน้า Metro) เมื่อเลื่อนไปส่วนของแอพพลิเคชั่น จะมีลูกศรเล็กๆ มุมซ้ายล่างให้คลิก เข้าไปจะแสดงข้อมูลแอพโดยจะเปลี่ยนเป็นเรียงตามชื่อตัวอักศร

3. เปลี่ยนพื้นหลังได้หลากหลาย

wallpapers

สามารถปรับเปลี่ยนพื้นหลังของหน้าจอสตาร์ท (หน้า Metro) กับเดสก์ท็อปให้เหมือนกันได้หรือจะเปลี่ยนเป็นรูปอีกก็ได้

4. ปิดเครื่องอย่างเร่งด่วน

Quick shutdown

ตัววินโดว์ 8.1 จะมีออฟชั่นใหม่ขึ้นมาโดย คลิกที่ขอบมุมซ้ายบนเดสก์ท็อป ซึ่งจะมีเมนูใหม่ขึ้นมา สามารถเลือก Shutdown ได้ทันที

5. เปิด-ปิดตัวค้นหาอันแสนอัจฉริยะ Bing

Configure Smart Search

วิธีนี้จะช่วยค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยตัวค้นหาอันแสนอัจฉริยะ แต่เมื่อไม่ต้องการ ก็สามารถปิดมันได้เช่นกัน

โดยให้เปิด Settings charm ขึ้นมาแล้วเลือกที่ 'Change PC settings >> Search and apps >> Search' จากนั้นปรับ Off ตรง Bing ครับ

6. ปรับขนาดแอพบนหน้าจอสตาร์ท

App tiles

วิธีนี้สามารถปรับขนาดของแอพบนหน้าจอสตาร์ทได้ด้วย โดย 1. คลิกขวาบนกรอบแอพที่ต้องการ 2. เลือก Resize จากนั้นเลือกขนาดที่ต้องการ

7. ล็อคหน้าจอสไลด์โชว์

Lock screen slideshows

สามารถทำหน้าล็อคหน้าจอให้เป็นแบบสไลด์โชว์ได้โดย เลือก Setting >> PC and devices >> Lock screen

8. ตั้งชื่อกรุ๊ป

Name app groups

สามารถตั้งชื่อกรุ๊ปแอพต่างๆ บนหน้าจอสตาร์ท (หน้า Metro) ได้โดยการ คลิกขวาที่หน้าจอสตาร์ท >> เลือก Customise to bring up the labels

9. ปรับขนาดหน้าจอ

10

ปรับหน้าจอได้ทันทีที่หน้าจอสตาร์ท (หน้า Metro) โดยไม่ต้องเข้าไปที่เดสก์ท็อป หรือคอนโทรลพาเนลเลย

ขั้นตอน: 1. คลิกที่ 'Settings' >> 2. เข้าไปที่ 'Change PC settings' และเลือก 'Display'

10. เอา Hot Corner ออก

Disable hot corners

วิธีนี้ถ้าไม่ต้องการแถบเครื่องมือที่อยู่ด้านขวาของเทสก์ท็อป ก็สามารถนำมันออกไปได้เช่นกัน

โดยไปที่ 1. 'Setting' >> 2. 'PC and devices' >> 3. 'Corners & edges'

11. IE11 โหมด Reading View

IE11 Reading View

Internet Explorer 11 หรือเรียกว่า IE11 จะติดมาพร้อมกับวินโดว์ 8.1 ซึ่งจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามาเพิ่ม หนึ่งในนั้นคือโหมด Reading View

สามารถเข้าใช้ได้โดย คลิกที่ ไอคอนหนังสือ บนฝั่งขวาของ  Address bar

12. การใช้งานแอพพร้อมกัน

App docking

ในวินโดว์ 8.1 นี้สามารถเปิดใช้แอพพร้อมกันโดยแบ่งหน้าจอไว้ที่ตรงกลางได้แล้ว

13. การเก็บข้อมูลไปที่ SkyDrive

Save to SkyDrive

ขั้นตอน: 1. เปิด Change PC Settings screen >> 2. เข้าไปที่ SkyDrive และเลือกเมนู Files

14. แถบ Libraries Link

15

ในวินโดว์ 8.1 จะไม่โชว์แถบ Libraries Link มาเหมือน วินโดว์ 7 แต่ยังสามารถนำมันกลับมาได้เช่นกัน

ขั้นตอน: 1. เปิดเมนู View >> 2. คลิกที่ Navigation pane และเลือก 'Show Libraries'

15. นาฬิกาปลุกอัจฉริยะ

Sound the alarm

นาฬิกาปลุกที่สามารถตั้งได้หลายเวลา และกำหนดเสียงปลุกเองได้

16. เครื่องคิดเลขอัจฉริยะ!

Quick calculations

เครื่องคิดเลขที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้นกับฟังชั่นใหม่ๆ

17. อัพเดทแอพพลิเคชั่นอัตโนมัติ

App updates

ไม่จำเป็นต้องมานั่งกดอัพเดทเองอีกแล้ว วินโดว์ 8.1 เขามีฟังชั่นคุณชายมานำเสนอ ซึ่งจะช่วยอัพเดทแอพให้อัตโนมัติ

สามารถเปิด-ปิด การใช้งานได้ใน Setting บน Store App

18. การเปิดใช้ System Image Backup

Create a system image backup

ขั้นตอน: 1. เข้าไปที่ Desktop >> Control Panel >> 2. เข้า System and Security และเลือก File History pane

เมื่อทำการเปิดแล้ว System Image Backup link จะปรากฏตรงมุมซ้ายมือด้านล่าง

19. แอพแต่งภาพ

Edit your pictures

แอพแต่งภาพที่มาพร้อมกับฟังชั่นช่วยแต่งภาพ ที่ช่วยให้ทำงานสะดวกมากขึ้น

20. แอพช่วยเหลือ

Get more help

การใช้งานวินโดว์ 8.1 อาจจะดูไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ เลยมีแอพช่วยเหลือที่ให้สามารถเข้าใจและใช้ได้ง่ายขึ้น

ที่มา : http://www.techradar.com/news/software/operating-systems/windows-8-1-tips-tricks-and-secrets-1188599http://tips.thaiware.com/188-Windows-8-1-Tip-Tricks-and-Secrets.html

วันอังคาร, กรกฎาคม 22, 2557

วิธี แบ่งพาติชั่น แบ่งไดร์ฟ รวมไดร์ฟ บนวินโดว์ 8/ 7/ XP โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม

เชื่อว่าหลายคนคงประสบปัญหาที่ว่า เวลาเราซื้อโน้ตบุ๊ค หรือคอมพิวเตอร์มาใหม่ ทางผู้ผลิตแต่ละค่ายก็ไม่ค่อยนิยม แบ่งไดร์ฟ แบ่ง พาติชั่น มาให้ เราต้องมาหาวิธีนั่งแบ่ง พาติชั่น เอง โดยในทิป/ ทริค นี้ จะมาสอนวิธีแบ่ง พาติชั่น โดยใช้ของดีที่ติดมากับวินโดว์อยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมเสริมใดๆ เลยจ้า

divide-partition-windows_01

ขั้นตอนที่ 1 : ให้เปิด Control Panel และเลือก "Administrative Tools" ถ้าหาไม่เจอลอง Search เอาก็ได้นะ

หรือทางลัด ! กดปุ่ม Windows + R --> พิมพ์ diskmgmt.msc แล้วกด Enter จะเป็นการเปิด Disk Management ขึ้นมาเลย

divide-partition-windows_02

ขั้นตอนที่ 2 : คลิกที่ "Computer Management" เพื่อเข้าไปจัดการแบ่ง พาติชั่น แบ่งไดร์ฟ นั่นเองครับ

divide-partition-windows_03

ขั้นตอนที่ 3 : ในฝั่ง Panel ด้านซ้ายมือ ให้เลือก "Disk Management" ส่วนฝั่งขวาเราจะเห็นไดร์ฟหลายตัว ให้เราคลิกขวาไดร์ฟที่เราจะแบ่ง พาติชั่น โดยในตั้วอย่างนี้ผมซื้อโน้ตบุ๊คมา แต่มีไดร์ฟ C: อันเดียว เพราะฉะนั้นผมจึงต้องการเอาเนื้อที่จากไดร์ฟ C: ออกมาไปแบ่งเป็นไดร์ฟอื่น

วิธีทำก็คือคลิกขวาที่ไดร์ฟ C: แล้วไปที่ "Shrink Volume.."

divide-partition-windows_04

รอสักครู่จ้า

divide-partition-windows_05

ขั้นตอนที่ 4 : มาถึงขั้นตอนกำหนดไดร์ฟแล้ว โดยแต่ละช่องมีความหมาย ดังนี้

  • Total size before shrink in MB: --> ความจุทั้งหมดของไดร์ฟ C: ที่เราเลือก
  • Size of available shrink space in MB: --> ขนาดที่เราสามารถแบ่งได้
  • Enter the amount of space to shrink in MB: --> ใส่ขนาดที่เราต้องการจะแบ่ง
  • Total size after shrink in MB: --> ขนาดไดร์ฟ C: ที่เหลือ หลังจากการแบ่งไดร์ฟ

หลังจากนั้นกด "Shrink" เพื่อทำการ แบ่งไดร์ฟ แบ่ง พาติชั่น

divide-partition-windows_06

แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าใครขี้เกียจคำนวณตัวเลขจำนวน MB เยอะๆ เราสามารถใช้ Google ช่วยแปลงหน่วยไปมาระหว่าง GB และ MB ได้อย่างง่ายดาย ดูตัวอย่างได้ที่ภาพด้านบนเลยครับ เช่น 340 GB = 348160 MB หรือ เป็นต้น

divide-partition-windows_07

ขั้นตอนที่ 5 : เราจะเห็นไดร์ฟที่เราได้สร้างขึ้นมาใหม่แล้ว ซึ่งไดร์ฟยังเป็น "Unallocated" อยู่ ให้เราคลิกขวาที่ไดร์ฟนั้น และไปที่ "New Simple Volume.."

หมายเหตุ ถ้าใครไม่เห็นไดร์ฟที่เพิ่งแบ่ง ให้ปิดหน้าต่าง Computer Management นี้ไปก่อน แล้วเปิดขึ้นมาใหม่

divide-partition-windows_08

ขั้นตอนที่ 6 : ใส่ขนาดที่เราต้องการสร้างไดร์ฟ ซึ่งกด Next ข้ามไปได้เลย

divide-partition-windows_09

ขั้นตอนที่ 7 : เลือกชื่อไดร์ฟที่เราต้องการ เช่น D: E: F: ซึ่งตรงนี้เราเปลี่ยนทีหลังได้ และกด Next

divide-partition-windows_10

ขั้นตอนที่ 8 : ตั้งชื่อไดร์ฟของเรา และเลือก "Perform a quick format" หลังจากนั้นกด Next ตามสเต็ป

divide-partition-windows_11

เพียงเท่านี้เราก็สามารถสร้างไดร์ฟขึ้นมาได้แล้วเน้อ ง่ายจริงๆ

divide-partition-windows_12

จะเห็นได้ว่าไดร์ฟที่เราเพิ่งสร้างขึ้นมา สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้วจ้า เป็นยังไงกันบ้าง ไว้ทิป/ ทริค หน้าจะเอาเทคนิคดีๆ ง่ายๆ แบบนี้มาฝากเพื่อนๆ ชาวไทยแวร์กันอีกครับ wink


วิธีรวม พาติชั่น รวมไดร์ฟ

สิ่งที่ต้องเตรียม : ไดร์ฟที่เราไม่ใช้ และข้อมูลควรจะว่าง ในตัวอย่างนี้ผมจะยุบไดร์ฟ "D: Dearyjung" ให้ไปรวมกับกับไดร์ฟ C:

หมายเหตุ : ควรแบ็คอัพข้อมูลไดร์ฟที่คุณต้องการจะยุบก่อนที่จะทำขั้นตอนต่อไป

divide-partition-windows_13

ขั้นตอนที่ 1 : เปิด Disk Management ขึ้นมา และคลิกขวาไดร์ฟที่ต้องการจะยุบ (ในตัวอย่างนี้ คือ ไดร์ฟ D: Dearyjung) แล้วคลิก "Delete" เราจะได้ไดร์ฟว่างที่เป็น "Unallocated" เหมือนภาพด้านล่าง หรือถ้าใครมีส่วนที่เป็น Unallocatd อยู่แล้ว ก็ไม่ต้อง Delete ไดร์ฟก็ได้นะ

divide-partition-windows_14

ขั้นตอนที่ 2 : คลิกขวาที่ไดร์ฟ C: และไปที่ "Extend Volume" ซึ่งเป็นการขยายเนื้อที่ในไดร์ฟปัจจุบันนั่นเอง

divide-partition-windows_15

ขั้นตอนที่ 3 : กด Next ไปตามสเต็ป

divide-partition-windows_16

ขั้นตอนที่ 4 : ให้เราใส่จำนวนเนื้อที่ ซึ่งเหลืออยู่บนฮาร์ดไดร์ฟของเรา แล้วกด Next จ้า

  • Total volume size in megabytes (MB): --> ขนาดเนื้อที่ทั้งหมดในไดร์ฟ C:
  • Maximum available space in MB: --> เนื้อที่ ซึ่งสามารถนำมารวมในไดร์ฟ C: นี้ได้
  • Select the amount of space in MB: -->  ใส่ขนาดที่เราต้องการจะรวมเข้ามาในไดร์ฟนี้

divide-partition-windows_17

กด Finish เพื่อยืนยันการ รวมไดร์ฟ รวม Partition

divide-partition-windows_18

สิ้นสุดขั้นตอนการ รวมไดร์ฟ (Drive) รวมพาติชั่น (Partition) เรียบร้อยแล้วครับ และไดร์ฟ D: Dearyjung ตอนนี้ได้มารวมกับไดร์ฟ C: เป็นที่เรียบร้อยแล้ว yes ถ้าเพื่อนๆ มีข้อสงสัยใดๆ สอบถามที่คอมเม้นด้านล่างได้เลยครับ

 

เครดิต:tips.thaiware

วันอังคาร, พฤศจิกายน 19, 2556

Microsoft ปล่อย Office remote แอพสำหรับการควบคุมไฟล์ Microsoft Office 2013 ผ่าน Windows phone 8 ของคุณ สุดยอดเครื่องมือสำหรับการนำเสนองาน

Microsoft ปล่อย Office remote แอพสำหรับการควบคุมไฟล์ Microsoft Office 2013 ผ่าน Windows phone 8 ของคุณ สุดยอดเครื่องมือสำหรับการนำเสนองาน

สำหรับผู้ใช้งานมือถือ Windows phone 8 หลายๆคน (เช่นผม เป็นต้น) คงจะมีคำถามและความต้องการลึกๆว่า อยากควบคุมไฟล์นำเสนออย่าง PowerPoint ด้วยมือถือ Windows phone 8 ของตัวเองตอนที่เราต้องนำเสนองานให้กับผู้ชมครับ ซึ่งถ้าลองนึกภาพว่าเราสามารถนำเสนอไฟล์ PowerPoint บนหน้าจอโปรเจคท์เตอร์ได้ และสามารถเลื่อนสไลด์ไปหน้าต่อไปผ่านหน้าจอมือถือของเราโดยไม่ต้องใช้เมาส์ ก็คงจะเท่ไม่น้อย
วันนี้ความฝันของท่านเป็นจริงแล้วครับ

overview_orangetitle_small

Microsoft ได้ปล่อยแอพตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Office Remote ออกมาครับ ซึ่งคุณสมบัติของมันก็ตามชื่อเลยครับคือ การใช้มือถือ Windows phone 8 ของเราเป็นรีโมทสำหรับการควบคุมโปรแกรม Microsoft Office บนเครื่องคอมพิวเตอร์

อ่านไม่ผิดครับ เพราะไม่ได้แค่ใช้ควบคุมโปรแกรม PowerPoint เท่านั้น แต่เจ้าแอพ Office remote ยังสามารถควบคุมโปรแกรมอื่นๆอย่าง Microsoft Word และ Microsoft Excel ได้อีกด้วย

มาดูคุณสมบัติของเจ้า Office remote กันครับ

สำหรับควบคุมโปรแกรม Microsoft PowerPoint

1. สามารถเลื่อนสไลด์ไปยังหน้าต่อไป, ก่อนหน้า, หน้าแรกสุด หรือหน้าสุดท้ายได้

2. ดูหน้าจอ Slide thumbnail หรือหน้าจอแสดงหน้าสไลด์ทั้งหมด และแตะที่หน้าจอที่ต้องการนำเสนอเพื่อเรียกหน้าจอนั้นให้แสดงที่โปรเจคเตอร์ได้

office remote app_4

3. ดูส่วน Speaker note หรือโน้ตสำหรับผู้นำเสนอที่เราสร้างเอาไว้ได้บนหน้าจอมือถือของเรา

office remote app_3

4. ดูเวลาที่ใช้ในการนำเสนอไปแล้ว และหน้าของสไลด์ปัจจุบัน (ตามรูปด้านบน)

5. มีส่วน Laser pointer ที่เราสามารถใช้แทน pointer เพื่อชี้จุดที่เราต้องการเน้นให้ผู้ชมเห็นได้ (ฟังก์ชั่นนี้สุดยอดมากครับ และจากที่ผมทดสอบความเร็วในการตอบสนองอยู่ในระดับที่ดีมาก)

จุดแดงๆในรูปคือ Laser Pointer นะครับ ซึ่งเจ้า Pointer นี้ก็จะปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโปรเจคเตอร์ด้วยเช่นกัน

จุดแดงๆในรูปคือ Laser Pointer นะครับ ซึ่งเจ้า Pointer นี้ก็จะปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโปรเจคเตอร์ด้วยเช่นกัน

สำหรับควบคุมโปรแกรม Microsoft Excel

1. สามารถเปลี่ยนหน้า Worksheet ได้โดยการปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา

2. ใช้งานคุณสมบัติ Slicer, PivotTable และการ Filter ข้อมูลต่างๆได้

3. เลื่อนตำแหน่งไปยัง name object บน worksheet ของเราได้

office remote app_6

4. เลื่อนหน้าจอ worksheet ของเราขึ้นหรือลงได้ตามต้องการ

5. ซูมเข้า-ออกภายในหน้าจอ worksheet

สำหรับควบคุมโปรแกรม Microsoft Word

1. เลื่อนตำแหน่งไปยังส่วน Heading ในไฟล์เอกสาร

office remote app_5

2. เลื่อนตำแหน่งไปยังส่วน comment ต่างๆในเอกสาร

3. เลื่อนหน้าจอเอกสารของเราขึ้น หรือลงได้ตามต้องการ

4. เลื่อนบรรทัดทีละบรรทัด

5. ซูมเข้า-ออกภายในหน้าจอเอกสาร

จากคุณสมบัติทั้งหมดที่มีในแอพ Office remote นั้นจะเห็นได้ว่า จุดเด่นจริงๆของเจ้าแอพนี้อยู่ที่ส่วนการควบคุมไฟล์นำเสนอหรือไฟล์ PowerPoint นั่นเองครับ

ความต้องการของแอพ

สำหรับการใช้งานแอพ Office remote เพื่อควบคุมโปรแกรม Microsoft Office บนคอมพิวเตอร์ของเราอย่างสมบูรณ์นั้น สิ่งที่เราต้องมี มีดังต่อไปนี้ครับ

1. โทรศัพท์มือถือ Windows phone 8 ยี่ห้อใดก็ได้ และต้องติดตั้งแอพ Office remote ซึ่งดาวน์โหลดได้จากที่นี่ครับ

(ต้องเปลี่ยน store เป็น US ครับ ผมทดสอบกับ 720 แล้วหลังการเปลี่ยน Store สามารถดาวน์โหลดได้ปกติครับ
การเปลี่ยน Store ทำได้โดยการไปที่เมนูการตั้งค่า–>ภาษา+ภูมิภาค จากนั้นให้เปลี่ยนตรงตัวเลือกที่ 2-3 (ประเทศ/ภูมิภาค และ รูปแบบภูมิภาค) ให้เป็น สหรัฐอเมริกาทั้งคู่ก่อนครับจากนั้นจะเจอตัวเลือกให้เรารีสตาร์ทโทรศัพท์ 1 ครั้ง)

Download: Office remote for Window Phone 8

QR Code:

Office remote qr

2. เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี Bluetooth จะเป็น notebook, PC หรือ Tablet Windows 8 ก็ได้

3. โปรแกรม Microsoft Office 2013 (ไม่รองรับ Office ที่เวอร์ชั่นต่ำกว่านี้ครับ)

4. ติดตั้ง plugin Office remote (ดาวน์โหลดได้จากที่นี่)

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ขั้นตอนการใช้งานคร่าวๆมีดังนี้ครับ

1. เปิดบลูทูธทั้งบนมือถือและเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นจับคู่อุปกรณ์ทั้ง 2 ให้เรียบร้อย

2. เปิดโปรแกรม Microsoft Office บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการใช้งาน (ต้องติดตั้ง plug-in เรียบร้อยแล้วนะครับ) จากนั้นมองหา ribbon ที่ชื่อว่า Office remote จากนั้นจะเจอตัวเลือกเปิดใช้งาน Office remote ตามรูปครับ

Microsoft Office Add-in

3. เมื่อเปิด plugin แล้วให้ไปเปิดแอพ Office remote บนมือถือของเรา จากนั้นรอสักครู่ ไฟล์นำเสนอของเราก็จะพร้อมสำหรับการนำเสนอแล้วครับ

office remote app_3

เรียกได้ว่านี่เป็นแอพที่คนทำงานหลายๆคนรอคอยเลยครับ จากที่ผมได้ทดสอบมาประมาณ 1 ชั่วโมงพบว่า การใช้งานนั้นน่าประทับใจมาก การนำเสนอไฟล์ PowerPoint และการใช้ Laser Pointer สามารถใช้งานได้สมบูรณ์เลยทีเดียว

 

เครดิต:appdisqus