This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

A beautiful Start

It begins here. Windows 8 and Windows RT.

Make the #switch

It’s colourful. Fast. Takes amazing photos. And that’s just for starters... So many reasons to fall in love with the new Nokia Lumia. Then make the #switch.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โน๊ตบุค แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โน๊ตบุค แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธ, พฤศจิกายน 25, 2558

วิธีตั้งค่า Windows ให้แสดงตัวอักษรใหญ่ขึ้น แก้ปัญหากวนใจผู้สูงอายุ

ด้วยในปัจจุบันนี้ คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ส่วนใหญ่จะตั้งความละเอียดหน้าจอ Resolution สูงสุดอยู่เสมอ ทำให้ทั้งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน หรือวัยผู้สูงอายุ ก็เจอปัญหาตัวอักษรเล็กเหลือเกิน เรามาทำให้ตัวอักษรบนระบบปฏิบัติการ Windows นี้ตัวใหญ่ขึ้น เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น แม้ว่าความละเอียดหน้าจอจะแสดงระดับสูงสุดก็ตามสำหรับผู้ใช้ ระบบปฏิบัติการ Windows 7  หรือ Windows 8

ให้เข้าไปที่ Control Panel  ( กรณีผู้ใช้ Windows 7 เข้าไปที่ปุ่ม start แล้ว พิมพ์ที่ช่อง search ว่า Control Panel , ส่วนผู้ใช้ Windows 8 ให้กด ctrl+q แล้วพิมพ์ที่ช่อง search ว่า control panel เช่นกัน ) >> จากนั้นเลือกที่ Display

enlarge-display-text-windows-setting-01
คุณก็จะเห็นหน้าจอปรับตัวอักษร แล้ว มีให้เลือก  3 ระดับคือ  smaller , medium , larger  เหมือนกัน หากพอใจขนาดที่เค้าตั้งให้ก็เลือกขนาดที่ชอบได้เลย แล้วคลิก Apply จบขั้นตอน แต่ถ้าดูแล้วใหญ่ไม่พอละก็ ยังสามารถปรับขนาดตัวอักษรที่ปรับได้ละเอียดขึ้นกว่า smaller , medium , larger   เมื่อสักครู่นี้ได้ โดยสามารถทำได้ดังนี้

enlarge-display-text-windows-setting-02

สำหรับผัู้ใช้ Windows 7 จากหน้าจอ smaller , medium , larger   ให้เลือกที่ Set custom text size (DPI) ตรงรายการเมนูด้านซ้าย

enlarge-display-text-windows-setting-03

กรณีใช้ Windows 8 ให้เลือกที่ Custom sizing options

enlarge-display-text-windows-setting-04

แล้วก็เลื่อนซ้ายขวาเพื่อปรับขนาดตัวอักษรใหญ่เล็กแบบละเอียดได้ตามต้องการ พอใจขนาดแล้ว ให้คลิก okเสร็จสิ้นการตั้งค่า

enlarge-display-text-windows-setting-05

ก็จะได้ขนาดพิเศษ Custom ดังรูปด้านบน

ส่วนกรณีผู้ใช้ Windows 10

จากหน้าจอ desktop หลัก ให้คลิกปุ่ม start แล้วเลือกที่ Settings > เลือก  System.

enlarge-display-text-windows-setting-06

จะปรากฎหน้าต่าง เลือกแท็บด้านซ้ายที่ Display  แล้วสามารถเลือกขนาดตัวอักษรที่จะแสดงได้ที่ ตัวเลื่อนchanging the size of your text and “other items ซึ่งก็ไม่ต่างจาก Windows 7 และ Windows  8 ก็มี 3 ระดับเช่นกัน

enlarge-display-text-windows-setting-07

หากไม่พอใจขนาดอักษร 3 ขนาดบน Windows 10 ให้คลิกที่ Advanced display settings  >> แล้วเลือก  set a custom scaling level เพื่อปรับขนาดอย่า่งละเอียดอีกครั้ง

แค่นี้ ผู้ที่ทำงานคอม และผู้สูงอายุ สามารถอ่านตัวอักษรบนคอมพิวเตอร์ได้อย่างสบายตาขึ้น หากคุณมีปัญหาเรื่องมองตัวอักษรเล็กๆก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูกันได้เลย

ข้อมูลจาก it24hrs  PC WORLD

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 22, 2555

วิธีติดตั้ง Windows 8 แบบ Clean Install ลง Win 8 ง่ายๆไม่ง้อช่าง

วิธีติดตั้ง Windows 8 แบบ Clean Install ลง Win 8 ง่ายๆไม่ง้อช่าง

ในการลงวินโดวส์นั้นหลายคนยังมีอาการกลัวอยู่ว่า เดียวจะลงผิดลงถูกทำให้ใช้ไม่ได้ จึงต้องพึ่งช่างตามร้านคอมพิวเตอร์ก็ต้องเสียเงินมากน้อยก็แล้วแต่ร้าน ผมจะมาบอกว่าความจริงแล้วลงวินโดวส์นั้นไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรสำหรับWindows 8 นั้นลงง่ายมากๆ ถึงจะมีขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นมามากกว่า Windows 7 แต่คงไม่ยากเกินความสามารถของคุณๆ หรอกครับ ยิ่งถ้าเคยลง Windows 7 มาบ้างแล้วยิ่งเป็นการง่าย

วันนี้ผมจะมานำเสนอวิธีการลง Windows 8 แบบ Clean Install ก็คือแบบล้างเครื่องหรือฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์ใหม่กันเลย....มาตามดูครับ

ในที่นี้ผมจะใช้วิธีการติดตั้งจากแผ่น DVD ของ Windows 8 นะครับ

1.ก่อนอื่นใส่แผ่นติดตั้งลงในเครื่องอ่านดีวีดีของคอมพิวเตอร์ ทำการบูตเครื่องให้ไปตั้งไบออสของเครื่องให้บูตจากแผ่นดีวีดีเป็นอันดับแรกซึ่งการเข้าไบออสนั้นส่วนมาก ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็จะกดปุ่ม Del ส่วนแลปทอปก็จะกดปุ่ม F2ให้ดูที่คู่มือของแต่ละเครื่องก็แล้วกัน

เมื่อเครื่องบูตขึ้นมาจนเห็นคำว่า Press any key to boot from CD or DVD... ให้กด ENTER เลยครับ

2.ปล่อยให้เครื่องทำงานไปจนได้จนปรากฎดังภาพ ให้คลิกเลือกรายการตามนี้

  • Language to install : English
  • Time and currency format : Thai(Thailand)
  • Keyboard or input method : ตัววินโดวส์จะเลือกให้เป็น Thai เพราะเห็นว่า Time and currency formatตั้งเป็น Thai ให้เราเลือกกลับมาเป็น US ก่อน เหตุผลเพราะเมื่อติดตั้งเสร็จหน้าล็อกออนเข้าระบบจะเป็นภาษาไทย เราอาจงงได้ในการกรอกชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ด

3.ในหน้าต่าง Windows Setup ให้คลิก Install now เพื่อเริ่มการติดตั้ง Windows 8

4.ในหน้าต่าง License terms คลิกถูก I accept the term license จากนั้นคลิก Next

5.ในหน้าต่าง Which type of installation do you want? ให้เลือกเป็น Custom: Install Windows only (advanced)

6.ในหน้าต่าง Where do you want to install Windows? ให้เลือกฮาร์ดดิสก์หรือพาร์ติชันที่ต้องการติดตั้ง (ในที่นี้เลือก Drive 0) เสร็จแล้วคลิก Next

ข้อควรจำในขั้นตอนนี้

  • ขั้นตอนนี้เราเลือก Drive ที่จะลง Windows8 ส่วนมาก จะลงใน Disk/Drive 0 นะครับ ก็คือ Drive C: ของWindows เรานั้นเอง ระวังให้ดีอย่าลงผิดไดร์ฟนะ ในกรณีที่มีพาร์ติชันมากกว่า 1 พาร์ติชัน

  • ในการ Format Windows ข้อมูลจะหายเฉพาะที่ Drive C นะครับ

สำหรับเครื่องที่มี Windows XP , Windows 7 แล้วจะลงใหม่เป็น Windows 8

1.ให้ทำการ Format Drive ที่เป็นวินโดวส์ตัวเก่าก่อน โดยทำการกด Drive options (advanced) จากนั้นเลือก ไดร์ฟของวินโดวส์เก่าแล้วคลิก Format... ย้ำอีกทีดูดีๆนะครับ ถ้าผิดไดร์ฟข้อมูลในไดร์ฟหายหมดนะ

2. จากนั้นก็เลือก Drive/disk ที่เรา Format ไปจากข้อที่ผ่านมา จากนั้นกด Next

สำหรับเครื่องที่เพิ่งซื้อมาใหม่หรือฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่

1 ให้เราทำการกด Drive options จากนั้นเลือกฮาร์ดดิสก์แล้วคลิก New เพื่อทำการแบ่งพาร์ติชันวินโดวส์ให้แบ่งมาสัก80 -100 GB ก็พอ ( 1GB = 1024 MB)

2 จากนั้น ก็แบ่งส่วนที่เหลือไว้ให้กับ Drive D , E ตามความเหมาะสม

3 ต่อมาให้เลือกไดร์ฟที่จะให้ลงวินโดวส์ โดยทำการคลิกบน Drive/Disk แล้วคลิก Next

7.ระบบจะเริ่มทำการติดตั้ง Windows 8 โดยจะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ของวินโดวส์ตามนี้ Copying Windows files, Getting files ready for installation, Installing features, Installing updates และ Finishing upให้รอจนการติดตั้งแล้วเสร็จ ก็ประมาณ 15 - 20 นาที ขึ้นอยู่กับเครื่องว่าแรงขนาดไหน

8.เมื่อ Windows 8 ติดตั้งเรียบร้อย เครื่องจะรีสตาร์ท 1 ครั้ง

9.หลังจากทำการติดตั้งแล้วเสร็จ Windows จะทำการรีสตาร์ทเครื่อง 1-2 รอบ จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างPersonalize ให้ทำการเลือกสีของ Background และกำหนดชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใส่ชื่อที่ต้องการในช่อง PC name เสร็จแล้วคลิก Next

10.ขั้นตอนการ Settings ให้เราเลือก Use Express Settings เพื่อทำการตั้งค่าระบบแบบด่วน

11.ในหน้าต่าง Sign in to your PC ให้คลิก Sign in without a Microsoft account แล้วคลิก Next

** ในขั้นตอนนี้จะมีวิธีการ Sign in to your PC อยู่ 2 วิธี ได้แก่ Email Address และ Sign in without a Microsoft account สำหรับในที่นี้ผมขอให้เลือก Sign in without a Microsoft account เพราะสะดวกกว่า ส่วนEmail Address เราต้องต่ออินเตอร์เน็ตและต้องมีอีเมลของ outlook.com หรือ Hotmail.com อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเราสามารถสร้างได้ภายหลังที่เข้าใช้วินโดวส์แล้วก็ได้ **

12.หน้าต่างต่อมาให้คลิก Local account

13.ต่อมาให้กำหนดชื่อผู้ใช้ในช่อง User name แล้วกำหนดรหัสผ่านที่ต้องการ 2 ครั้ง ในช่อง Password และReenter password จากนั้นข้อความช่วยจำรหัสผ่านในช่อง Password hint แล้วคลิก Finish

14.ระบบจะทำการจัดเตรียมระบบตามการตั้งค่า

15.ระบบแนะนำการใช้งานเบื้องต้นจากหน้านี้ก็จะเข้าหน้า Lock on Screen

16.เมื่อมาถึงหน้า Lock on Screen คุณก็พร้อมใช้งาน Windows 8 ได้แล้ว

จบแล้วครับสำหรับการติดตั้ง Windows 8 แบบ Clean Install ผมคิดว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับผู้ที่ต้องการจะเรียนรู้ในติดตั้งระบบวินโดวส์ด้วยตนเอง ไม่ต้องไปง้อใครหรือเสียตังส์ให้กับช่างคอมพิวเตอร์

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ: Notebookspec

วันเสาร์, พฤศจิกายน 17, 2555

อัพเดตเวอร์ชันและราคาวินโดวส์ 8

Windows 8 RT : เป็นเวอร์ชันที่ออกแบบมาเพื่อแท็บเล็ตและอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยซีพียู ARM Processor โดยเวอร์ชันดังกล่าวนี้จะไม่ได้เปิดจำหน่ายในท้องตลาด แต่จะมากับอุปกรณ์ที่เป็นแท็บเล็ตทั้งหลาย แต่หากใช้งานซีพียูอินเทลหรือ AMD ก็จะไม่ได้มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด

Windows 8 : เป็นเวอร์ชันพื้นฐานของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่นี้ รองรับการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์สำนักงาน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและการเล่นเกม รวมถึงการใช้งานออนไลน์อย่างเช่น โซเชียลเน็ตเวิร์กหรือเล่นเกมออนไลน์เป็นต้น

Windows 8 Pro : ส่วนในเวอร์ชันนี้ ออกแบบมาให้สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ โดยเปิดไมโครซอฟท์จำหน่ายแบบออนไลน์ให้ดาวน์โหลดในราคาพิเศษ $39.99 จนถึง January 31, 2013 ซึ่งฟีเจอร์หลักๆ ที่ Windows 8 Pro เพิ่มเติมขึ้นมาจากเวอร์ชันปกติก็คือ ในส่วนของ Remote Desktop ที่ในเวอร์ชัน Windows 8 นั้นทำงานได้เพียง Client Only เท่านั้น แต่ในรุ่น Pro จะทำงานได้ในแบบ Client and host และฟีเจอร์ Encryption ที่ไม่มีใน Windows 8 ปกติ ซึ่งหากต้องการสิทธิภาพที่สูงขึ้น Windows 8 Pro ยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

สำหรับประเทศไทย ราคาและการวางจำหน่าย มีข้อมูลดังนี้
-ผู้บริโภคที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP, Windows Vista และ Windows7 บนเครื่องพีซีอยู่แล้วสามารถอัพเกรดเป็น Windows 8 Pro ได้ที่ราคา 39.99 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1,250 บาท)
-ผู้บริโภคที่ซื้อ Windows 7 ระหว่างวันที่ 2 มิถุนายน 2555 ถึง 31 มกราคม 2556 สามารถอัพเกรดเป็น  Windows 8 Pro ได้ในราคา 14.99 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 499 บาท)
-ผู้บริโภคสามารถศึกษาข้อเสนอของการอัพเกรดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.windowsupgradeoffer.com

ก่อนจะสั่งซื้อมาติดตั้ง ก็ควรจะเช็คสเปกเครื่องของคุณว่าพร้อมสำหรับการใช้งานหรือไม่ แต่ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะวินโดวส์ 8 นั้น ต้องการฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำไม่ได้ต่างไปจาก วินโดวส์ 7 เลยด้วยซ้ำ
-Processor: 1 gigahertz (GHz) or faster
-RAM: 1 gigabyte (GB) (32-bit) or 2 GB (64-bit)
-Hard disk space: 16 GB (32-bit) or 20 GB (64-bit)
-Graphics card: Microsoft DirectX 9 graphics device with WDDM driver

*ที่มา digitalsensus

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 15, 2555

แอพฯ ซิงก์ข้อมูลเพื่อ WP8

หลังจากในช่วงที่มีการเปิดตัว Windows Phone 8 ออกมานั้น ไมโครซอฟท์ก็ได้ปล่อยแอพฯ ที่เป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้ Windows Phone 8 ไปยังระบบ Windows8 และ Windows RT ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งตามรายงานล่าสุด โดย The Verge มีการโปรโมตแอพฯ ปรากฏบน Windows Store ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ Windows Phone 8 สามารถซิงก์ข้อมูลร่วมกับคอมพ์ที่ใช้ Windows 8 ได้อีกด้วย ซึ่งรายงานที่แน่ชัดนี้ออกมาชัดเจนว่าไม่สามารถทำงานได้ดีกับ Windows Phone 7

โดยแอพฯที่จะนำมาใช้นี้ จะมีพื้นฐานของระบบทั้ง 2 ระหว่าง WP8 และ Windows 8 ซึ่งสามารถใช้ในการแชร์ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์มัลติมีเดีย เพลง รูปภาพและข้อมูลอื่น ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว จุดเด่นที่น่าสนใจของแอพฯ ที่ใช้สำหรับการโอนถ่ายข้อมูลนี้ อยู่ที่ความสามารถแชร์คอนเทนต์ต่างๆ ระหว่างอุปกรณ์ได้อัตโนมัติ อีกทั้งสามารถถ่ายภาพหรือวิดีโอ จากสมาร์ทโฟนไปยังเครื่องพีซีได้ทันที โดยยังดูขนาดและรูปแบบไฟล์ของคอนเทนต์ ก่อนจะทำการแก้ไขหรือสร้างไฟล์ได้อีกด้วย โดยใน  App Store มีการแจ้งความต้องการของระบบเอาไว้เบื้องต้นคือ Processors as x86, x64 and ARM

 

เครดิต: commart.co.th

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 31, 2555

การ Charge iPad กับ PC-Notebook

Asus Ai Charger

ด้วยโปรแกรม  Asus Ai Charger สามารถทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ (Windows)ของคุณชาร์จไฟให้เครื่อง iPad ได้ด้วยการต่อ USB แบบเดิมและสามารถชาร์จไฟได้ไวกว่าเดิม 50% สามารถใช้ได้กับทุกเครื่องและทุกเมนบอร์ด เพียงติดตั้งโปรแกรม Asus Ai Charger

สามารถ Download ได้ที่นี้

ผลการทดสอบ

usb-charger

ทิป : ต้องติดตั้ง iTunes เสียก่อน เพราะโปรแกรมจะถามให้ Sync กับเครื่องเพื่อทำการชาร์จไฟครับดาวน์โหลด iTunes

วันศุกร์, พฤษภาคม 25, 2555

วิธีแปลงไฟล์สารพัดประโยชน์ บน Cloud Storage ของคุณด้วย Wappwolf

ด้วยปัจจุบันนี้มี พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ( Cloud Storage) ซึ่งมีอยู่หลายเจ้าด้วยกันอย่างที่เคยนำเสนอในบทความเรื่อง รวมเว็บบริการพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ฟรีๆ ที่มีประโยชน์ มาแล้ว คราวนี้จะนำเสนอเว็บไซต์เด็ด ที่จะทำให้ Cloud Storage ของคุณ สามารถแปลงไฟล์ เอกสาร ไฟล์ zip ไฟล์ภาพ และไฟล์เสียง ได้ทันที โดยทำผ่าน Cloud Storage ได้โดยตรง ไม่ต้องลงซอฟต์แวร์แปลงไฟล์
w14

เว็บไซต์ Wappwolf.com เป็นเว็บแอพที่ทำงานร่วมกับ Cloud Storage ต่างๆ ให้สามารถแปลงไฟล์ ในรูปแบบต่างๆโดยอัตโนมัติ โดยจะทำงานเมื่อนำไฟล์ต้นฉบับที่ต้องการจะแปลง มาวางไว้ในโฟลเดอร์ที่คุณกำหนด รองรับการทำงานแปลงไฟล์บน Dropbox , Google Drive , BOX และเร็วๆนี้ทาง Skydrive ด้วย

วิธีใช้งานแปลงไฟล์บน Cloud Storage ด้วย  Wappwolf

1. เข้าเว็บไซต์ Wappwolf.com ก็จะเข้าหน้าเว็บแอพสำหรับจัดการให้เว็บ Cloud Stroage สามารถแปลงไฟล์ได้ โดยหากคุณใช้ Dropbox อยู่แล้ว สามารถ คลิก Try Now หรือ Login หน้าเว็บนี้เพื่อใช้งานได้ทันที  ส่วนกรณีจะใช้กับ Google Drive , Box ก็ให้เลือกตาม Cloud ที่คุณใช้ก่อนคลิก try now! เช่นกัน ในตัวอย่างนี้จะใช้กับ Dropbox

2. เลือก Connect Dropbox เพื่อไป Login จัดการกับ Dropbox นี่เอง

3. ใส่อีเมลล์และรหัสผ่าน Dropbox ให้เรียบร้อย หลังจาก Login เสร็จ แล้วให้คลิก Allow ดังรูปเพื่อให้ Wappwolf เข้าถึงโฟลเดอร์ของเราและจัดการให้สามารถแปลงไฟล์บน Dropbox ของเราได้

4. เมื่อ Login Wappwolf  สำเร็จ ก็จะเจอรายชื่อโฟลเดอร์ Dropbox ของเรา ให้เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการจะให้สามารถแปลงไฟล์ได้โดยอัตโนมัติ ในตัวอย่างนี้จะเลือกโฟลเดอร์ ADV ให้สามารถแปลงไฟล์ได้ทันทีที่มีการอัพโหลดลงบนโฟลเดอร์นี้ แล้วคลิก Next

5. ก็จะพบรายการให้เลือกว่าโฟลเดอร์นี้จะกระทำอย่างไร ในตัวอย่างนี้ ต้องการให้ไฟล์พวกเอกสารที่จะวางบนโฟลเดอร์ ADV นี้  ให้แปลงไฟล์เป็นไฟล์ PDF ก็เลือกตามลำดับขั้นตอนดังรูป (แล้วแต่ที่คุณต้องการว่า จะให้โฟลเดอร์นี้แปลงเป็นไฟล์อะไร หรือกระทำอย่างไร?)

6. ระบบก็จะตั้งให้โฟลเดอร์ที่คุณเลือก สามารถแปลงไฟล์เป็น PDF ได้  เรียบร้อย และยังสามารถดำเนินกับโฟลเดอร์อื่นๆได้ โดยคลิก Add another Action เพื่อเลือกตั้งค่าโฟลเดอร์อื่นอีก หรือ Finish เพื่อเริ่มดำเนินการทำงานของโฟลเดอร์ที่เลือกเมื่อสักครู่

w001

7. แค่นี้โฟลเดอร์ adv ที่เราเลือกบน Dropbox ก็พร้อมสามารถในการแปลงไฟล์เป็น PDF แล้ว เพียงแค่คุณนำไฟล์เอกสารเช่น Powerpoint หรือ Word มาลงในโฟลเดอร์นี้ บน dropbox ก็จะดำเนินแปลงไฟล์ตามที่คุณตั้งได้ทันที

w012

8. ยกตัวอย่างจะอัพไฟล์นี้ซึ่งเป็นไฟล์ Powerpoint มาวางในโฟลเดอร์ adv นี้ เพื่อแปลงไฟล์จาก powerpoint กลายเป็น PDF (Adobe Reader)

9. เมื่ออัพโหลดเสร็จ เจ้า dropbox ของเราในโฟลเดอร์ที่เราตั้งไว้นี้ จะสร้างไฟล์ pics.pdf บน dropbox เราโดยอัตโนมัติ

หากต้องการยกเลิกแปลงไฟล์ของโฟลเดอร์นี้ ให้ย้อนไปดูรูปตามข้อ 7 แล้วคลิกที่  Delete automation เพื่อยกเลิกการกระทำแปลงไฟล์ของโฟลเดอร์นี้ แค่นี้โฟลเดอร์ adv ที่เคยเลือกว่าถ้าวางแล้วจะกลายเป็น pdf ก็จะกลับเป็นปกติแบบธรรมดา

เว็บไซต์ wappwolf.com นี้ นอกจากจะไว้ใช้กำหนดโฟลเดอร์บน Cloud Storage ในการแปลงไฟล์แล้ว ยังสามารถกำหนดให้สั่งปริ้นผ่าน Google Cloud Print หรือส่งไปยัง Google Note ,  แปลงไฟล์ภาพ , ย่อภาพ , แปลงไฟล์เสียง , ส่งไปยัง Evernote , แปลงให้สามารถอ่านบน Kindle , หรือ copy ไฟล์ไปย้ายใน Cloud Storage รายอื่นได้ด้วย และอื่นๆอีกมากมายกล่าวไม่หมด สารพัดประโยชน์จริงๆ ลองไปใช้กันดูจ้า

ข้อมูลจาก cnet

วันจันทร์, พฤษภาคม 21, 2555

การเซ็ต Wireless แชร์ไฟล์และอินเทอร์เน็ตด้วย Ad-Hoc Mode บน XP & Vista

การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายแบบเครื่องต่อเครื่อง ( Wireless: Ad hoc mode)
การเชื่อมต่อแบบกลุ่มส่วนตัว(Ad-Hoc)
การเชื่อมต่อแบบ Ad-Hoc เป็นการเชื่อมต่อที่ประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปที่ติดตั้ง
การ์ดแลนไร้สาย (หรือ Centrino Notebook) ทำการเชื่อมต่อสื่อสารกันโดยตรงไม่ต้องผ่านอุปกรณ์กระจาย
สัญญาณ (Access Point) โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อแบบนี้สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลได้เช่น แชร์
ไฟล์ เครื่องพิมพ์หรืออุปกรณ์ต่างๆ การสนทนาแบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ และเล่นเกมส์แบบวงแลนได้ ซึ่งช่วยให้
เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยไม่ต้องมีสายสัญญาณ แต่การเชื่อมต่อแบบ Ad-Hoc จะไม่
สามารถติดต่อสื่อสารกับเครือข่ายมีสายสัญญาณได้ นอกจากจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ Acces Point เพื่อให้
Access Point ทำการเชื่อมต่อและส่งข้อมูลไป
สำหรับ Windows XP

1. เข้าไปที่ Control Panel -> Network Connection

2. ดับเบิ้ลคลิกบน Local Area Connection เพื่อดูค่า IP Address ของเครื่องแม่

3. จากนั้นเลือกแทบ Support คลิกปุ่ม Details เพื่อดูค่าทั้งหมด

4. จะขึ้นหน้าต่างนี่ให้สนใจ ค่า IP Address, DHCP Server เนื่องจากจะใช้ IP จากสองตัวนี้ในการอ้างอิงถึง
กันระหว่าง LAN และ Wireless
  • นำ IP Address หากเครื่องนี้เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดย Dial Up หรือ อินเตอร์เน็ตรอดแบรนด์
    แบบต้องเชื่อมต่อเองทุกครั้ง จะต้องนำค่านี้ไปเซตให้ Wireless Connection
  • นำ DHCP Server หากเครื่องนี้หากเป็นการเชื่อมต่อแบบผ่าน Router หรือเซตให้โมเด็มเป็น
    Router เรียบร้อยแล้ว แค่เปิดโมเด็มหรือ Router หรือโมเด็มก็เล่นเน็ตได้เลย จะต้องนำค่านี้ไปเซตให้
    Wireless Connection
5. จากนั้นคลิกขวาบนไอคอน Local Area Connection เดิมนี่แหละ เลือก Properties -> แทบAdvanced จะขึ้นหน้าต่างนี้มา ทำเครื่องหมายทั้งสองช่อง ช่องแรกหมายถึงให้แชร์เน็ตให้กับ เครือข่ายอื่นๆ ช่องที่สอง หมายถึงให้เครือข่ายอื่นๆควบคุมการหรือยกเลิกการแชร์นี้ได้ได้ (ถ้ายังไม่มีช่องให้ทำเครื่องหมายให้ไปดูวิธีท้าย บทความก่อนนะครับ) 6. จากนั้นไปที่ Wireless Network Connection คลิกขวา Properties 7. จากนั้นเลือกตามในรูปครับ เพื่อเข้าไปตั้งค่า IP Address ของ Wireless เครื่องแม่ครับ 8. เซตค่าต่างๆดังนี้ ไอพีตั้งตามในรูปครับ ส่วน DNS server ให้เอาจาก ข้อ 4. ครับ ของใครเป็นแบบใหนก็เอา ค่าตรงนั้นมาใส่ครับ
  • สาเหตุที่ต้องตั้งไอพีเป็น 192.168.xxx.xxx เนื่องจากไอพีในกลุ่มนี้เป็น Private IP ครับ เป็นไอพีที่
    สงวนไว้ให้แต่ละองกรค์หรือบุคคลทั่วไปนำมาสร้างเครือข่ายใช้กันเอง โดยเมื่อเป็นไอพีแบบนี้แล้ว
    ข้อมูลจะไม่ถูกส่งออกไปข้างนอกเครือข่ายครับ ยกเว้นเราไปเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นที่เชื่อมต่อ
    อินเตอร์เน็ตแล้วบอกให้เราส่งข้อมูลไปให้หรือให้ส่งผ่านเครือข่ายนั้นด้วย
9. จากนั้นไปที่แทบ Wireless Networks แล้วคลิกปุ่ม Add ครับ เพื่อทำการสร้าง SSID ขึ้นมาสำหรับให้ เครื่องอื่นเชื่อมต่อครับ 10. ให้เซตตามรูปครับ ใส่ SSID ตามที่ต้องการครับ จะหมายถึงชื่อเครือข่ายที่เราสร้างขึ้นครับ ตรงช่อง Network key หมายถึงให้ใส่ Password สำหรับการเชื่อมต่อ ให้ใส่ตามใจชอบครับแต่แค่ 5 ตัวนะ เพราะ WEP เป็นการเข้ารหัสอย่างง่ายครับ ห้ามขาดห้ามเกินนะ 11. เลือกแทบ Connection เครื่องหมายช่องนี้ด้วย หมายถึงให้เชื่อมต่อกันอัติโนมัติเมื่ออยู่ในระยะที่เชื่อมต่อได้ 12. ก็จะได้เครือข่ายของเราเพิ่มขึ้นแล้วมาครับ 13. จากนั้นคลิกปุ่ม Advanced ทำเครื่องหมายดังรูปครับ เพื่อให้เครื่องนี้เชื่อมต่อกับโหมด Ad-Hoc เท่านั้น เพื่อไม่ได้มันเชื่อมต่อกับ Access Point ตัวอื่นหาอยุ่ในระยะ ก็จะกลายเป็นมันไม่ได้เชื่อมต่อกับเครื่องลูกที่เรา ต้องการอีก 14. เห็นใหมครับได้เครือข่ายเรามาแล้วเชื่อมต่อกันได้เลยครับ 15. เมื่อเราเชื่อมต่อแล้ว หมายถึงตอนนี้เครื่องแม่เรียบร้อยแล้วที่จะจ่ายไอพีและแชร์อินเทอร์เน็ตให้เครื่องอื่นๆ ภายในเครือข่ายได้แล้ว แต่ Ad-Hoc ให้ใช้งานสูงสุด 9 เครื่องเท่านั้นนะครับ 16. ไปเครื่องที่ต้องการจะเชื่อมต่อได้เลยครับ จัดการให้มันค้นหาเครือข่ายก็จะเจอเครือข่ายที่เราสร้างขึ้นมา เริ่ม Connect 17. เมื่อเราเริ่มเชื่อมต่อก็ต้องใส่ Password ก่อนครับ เอา Password ที่ตั้งไว้มาใส่ได้เลย เครื่องจะทำการเซ็ตไอพีตัวเองเมื่อใส่ Password ถูกต้อง 18. เครื่องจะเริ่มยืนยันสิทธิการใช้งานและรับค่าไอพีต่างๆมา เมื่อเสร็จสิ้นขึ้นตอนนี้ก็เป็นอันเรียบร้อย 19. เมื่อการเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยเข้าไปดูค่าไอพีครับ จะได้ไอพีและค่าสำหรับเน็ตเวิร์คอื่นๆมาจากเครื่องแม่ 20. ว่าแล้วก็เข้าเว็บโปรดของเรากันได้เลย *** เพิ่มเติม หาก Local Area Connection ไม่มีช่องให้ทำเครื่องหมายสำหรับการอณุญาติให้เครือข่ายอื่นใช้อินเทอร์เน็ต หรืแชร์อินเทอร์เน็ตให้คลิกตรงง Network Setup Wizard ก่อนครับ 1. เข้ามาหน้าแรกก็ Next ไปก่อนครับ 2. หน้าที่สองก็ Next ไปครับ 3. หน้านี้ก็ทำเครื่องหมายในช่อง Ignore แล้ว Next เพื่อข้ามไปครับ 4. ทำเครื่องหมายตามรูปครับ แล้วก็ Next 5. เลือกเป็น Local Area Connection และก็ Next 6. เลือกเป็น Wireless Network Connection เพื่อให้สองเครือข่ายเชื่อมต่อกัน 7. ทำเครื่องหมายตามรูปเพื่อแชร์ไฟล์และพริ้นเตอร์ครับ 8. คราวนี้ก็มาตั้งชื่อเครื่องเพื่อใช้ในการอ้างอิงในการแชร์ไฟล์หรือเรียกใช้งานต่าง ช่องบนเป็นแค่ รายละเอียดเสริมเวลาเรียกใช้ ส่วนช่องล่างคือชือเครื่องเราครับ 9. จากนั้นก็มาตั้งชื่อ Workgroup ครับ 10. คราวนี้ก็จะมีหน้าสรุปการตั้งค่าให้เราดูครับถ้าพอใจแล้วก็ Next ไปครับ 11. เครื่องก็จะเริ่มทำการตั้งค่าต่างๆตามที่เราเซตไว้ 12. เมื่อเสร็จแล้วก็จะต้องรีสตาร์ตหนึ่งรอบเพื่อเป็นการเปลี่ยนค่าให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็ดำเนินการตั้งค่า ต่อไปตามข้อที่ค้างไว้อยู่ครับ

สำหรับ Windows Vista เครื่องโฮสต์ 1. เข้าไปที่ Start -> Control Panel -> Network and Sharing Center 2. เลือก Manage wireless network 3. Add เพื่อสร้าง Network ขึ้นมาใหม่ 4. เลือกเป็น Create an ad hoc network 5. Next ไปครับเป็นแค่การอธิบายรูปแบบ network เท่านั้น 6. เซตค่าต่างๆของ network ที่สร้างขึน้ มา      6.1. ชื่อ network ที่ต้องการสร้างได้ตามต้องการครับ      6.2. รูปแบบความปลอดภัยในการเข้ารหัส      6.3. พาสเวิร์ดสำหรับเชื่อมต่อกับ network นี้ตัง้ได้ตามต้องการแต่ต้องเป็น 5 ตัวอักษรเนื่องจากเป็นการเข้ารหัส          แบบ WEP ครับ 7. เท่านีก้ารสร้าง network ก็เรียบร้อย 8. คราวนีมาเซตให้ Local Area Connection แชร์อินเทอร์เน็ตให้กับ Wireless Network Connection กัน 9. คลิกขวาที่ Local Area Connection 10. เลือก Properties 11. ทำเครื่องหมายทัง้สองช่องดังรูปครับ 12. มาที่ Wireless Network Connection ดับเบิล้คลิกครับ 13. เราได้ Ad‐hoc Network ชื่อ MyWifiVista ขึน้ มาแล้ว สถานะกำลังรอการเชื่อมต่อ ไปเครื่อง Client ที่ต้องการ นำมาเชื่อมต่อได้เลยครับ เครื่องไคลเอนต์      มาที่เครื่องที่จะเชื่อมต่อกันเอาเป็นว่าข้ามระบบปฏิบัติการกันเลยนะ 1. ก็เข้าไปที่ Wireless Network Connection ถ้าเน็ตเวิร์คที่สร้างไว้ยังไม่ขึน้ ก็ลอง Refresh network list ดูนะ ครับ 2. เมื่อเราเริ่มทำการเชื่อมต่อก็ต้องใส่พาสเวิร์ดที่เซตไว้บน Vista นั่นแหละครับ 3. เมื่อ connect รอบแรกเสร็จแล้วต้องกด connect อีกรอบนะครับเพราะรอบแรก network มันแค่เซตค่าตัวเอง เท่านั้น 4. เมื่อทำการ connect รอบที่สองเครื่องก็จำทำการรับที่อยู่ ip address และค่าต่างๆมาจากเครื่องโฮสต์4. เมื่อทำการ connect รอบที่สองเครื่องก็จำทำการรับที่อยู่ ip address และค่าต่างๆมาจากเครื่องโฮสต์
4. เมื่อทำการ connect รอบที่สองเครื่องก็จำทำการรับที่อยู่ ip address และค่าต่างๆมาจากเครื่องโฮสต์

5. เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนเรียบร้อยก็ทำการเชือมต่ออินเทอร์เน็ตดูครับ
หากเจอข้อผิดพลาดสามารถทักท้วงหรือแจ้งให้แก้ไขได้นะครับคิดว่าอาจเป็นประโยชน์ต่อพี่ๆเพื่อนๆทุกคน หลายคนอาจรู้แล้ว แต่ยังมีอีกหลายท่านที่สามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้ครับ