This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

A beautiful Start

It begins here. Windows 8 and Windows RT.

Make the #switch

It’s colourful. Fast. Takes amazing photos. And that’s just for starters... So many reasons to fall in love with the new Nokia Lumia. Then make the #switch.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันศุกร์, พฤศจิกายน 27, 2558

อัพเกรดคอมฯของคุณให้เร็วขึ้นแรงขึ้น ด้วยฮาร์ดดิสก์ SSHD จาก SEAGATE

หากคุณใช้คอมแต่เด็กจนถึงวัยทำงาน จะเห็นว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แทบทุกด้านเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก โดยเฉพาะ ฮาร์ดดิสก์ ที่เมื่อก่อนในสมัยปี 2542 มีความจุประมาณ 7GB แต่มาปัจจุบัน ฮาร์ดดิสก์ส่วนใหญ่จะจุถึง 500GB-2TB แล้ว เพราะอัตราการดาวน์โหลดไฟล์และการสร้างไฟล์ที่มีขนาดไฟล์ที่ใหญ่ขึ้น ทั้งภาพนิ่งความละเอียดสูง และไฟล์วีดีโอด้วย

โดยผู้ใช้คอมส่วนใหญ่จะใช้ ฮาร์ดดิสก์ แบบทั่วไปอยู่ ราคาถูก แต่ก็ต้องรับมือกับปัญหาที่การโหลดระบบปฏิบัติการที่ช้าลงไปเมื่อใช้นานๆ และในบางครั้งอาจทำให้เกิด bad sector ในกรณีฮาร์ดดิสก์ได้รับกระทบกระเทือนหนัก หรือเขียนข้อมูลจำนวนมาก

seagate-sshd-review-01

ทาง Seagate ได้ส่ง Seagate Desktop SSHD 2TB มาให้ลองประสิทธิภาพบน PC  ซึ่งน่าสนใจ เพราะปัจจุบันใครที่ซื้อ Notebook รุ่นใหม่ หรือผู้ใช้ Surface ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ความเร็วแรงและอึดของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ทำให้คอมประมวลผลทำงานรวดเร็วทันใจ แต่คงทราบดีว่าราคา SSD ราคาแพงอยู่

SSHD คืออะไร ?

SSHD ( Solid State Hybrid Drive ) ก็คือ ฮาร์ดดิสก์ ลูกผสมกันระหว่าง SSD และ ฮาร์ดดิสก์ ไว้ใน ลูกเดียวกัน

SSHD ติดตั้งต่างจาก ฮาร์ดดิสก์ ทั่วไปมั้ย ? จากที่ได้ลองใช้งานแล้วปรากฎว่าเหมือนกันเป๊ะ แต่สิ่งที่จะได้รับคือ การรันโปรแกรมตลอดจนการอ่านเขียนข้อมูล เร็วขึ้นกว่าการใช้ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป

หลายท่านรู้และทราบดีว่าตัวเลือกที่ดีและแรงสุดๆก็อยากจะได้ แบบ SSD เลย แต่ราคา SSD ยังแพงอยู่ และได้ความจุน้อยด้วย ดังนั้น SSHD ก็เป็นทางเลือกที่จะได้ความเร็วที่แรงและความจุที่เยอะและราคาคุ้มค่ากว่า แม้ว่าราคาแพงกว่าฮาร์ดดิสก์ธรรมดาระดับนึง และ ความเร็วจะไม่เท่า SSD แต่ประสิทธิภาพโดยรวมแล้วกลับเร็วแรงกว่าฮาร์ดดิสก์ทั่วไป และใกล้เคียงกับ SSD

seagate-sshd-review-02

ภาพซ้ายเป็น ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป กับ ภาพขวา SSHD จาก Seagate

คราวนี้จะทดสอบเปรียบเทียบความเร็วและประสิทธิภาพกัน ระหว่าง ฮาร์ดดิสก์ทั่วไปที่คุณเคยใช้ กับ SSHD2TB ในรุ่น Model ST2000DX001 กัน โดยจะใช้เครื่องมือในการทดสอบฮาร์ดดิสก์ ดังต่อไปนี้

seagate-sshd-review-03

สเปคคอม เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 เวอร์ชั่นทดสอบรุ่นล่าสุด (แม้ตัว Windows 10 เวอร์ชั่นเต็มออกมาแล้ว แต่ทาง Microsoft ก็ยังออกตัวทดสอบให้ทดลองใช้อย่างต่อเนื่อง)

โดยสิ่งที่จะใช้ทดสอบฮาร์ดดิสก์ มีดังต่อไปนี้คือ

seagate-sshd-review-04

  1. ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows10 รุ่นทดสอบเวอร์ชั่นล่าสุด โดยใช้ USB Flash Drive ในการติดตั้งเพื่อเน้นการวัดการอ่านเขียนข้อมูลฮาร์ดดิสก์ ขณะติดตั้งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  2. ทดสอบความเร็วการเปิดเครื่อง และ shutdown เครื่อง
  3. ทดสอบกับโปรแกรมทดสอบฮาร์ดดิสก์ ถึง 2 ตัว แสดงถึงประสิทธิภาพในการอ่านเขียนข้อมูลบน ฮาร์ดดิสก์

seagate-sshd-review-05

การทดสอบครั้งนี้จะใช้เครื่อง PC ตัวนี้ในการทดสอบ โดย ทั้ง ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป และ SSHD จะถูกลงด้วยระบบปฏิบัติการ Windows10 แบบ Clean Install หรือลงใหม่หมด (ไม่ใช่อัพเกรดเครื่อง) โดยจะเริ่มทดสอบ ทั้ง 3 อย่างผ่านทางตัวฮาร์ดดิสก์ทั่วไปก่อน ซึ่งในขั้นตอนนี้จะทำการ format แล้วลง Windows ใหม่ หลังจากติดตั้งเสร็จ จะทดสอบด้วยโปรแกรมทดสอบความเร็วประสิทธิภาพของฮาร์ดดิสก์แล้ว แล้วทำบันทึกเวลาและถ่ายภาพ Screen Shot ภาพไว้

seagate-sshd-review-06

จากนั้นจะถอดฮาร์ดดิสก์ทั่วไปออก แล้วเสียบ SSHD แทนที่ ฮาร์ดดิสก์ แล้วจับเวลาลองลง Windows 10 แบบ Clean Install ใหม่อีกครั้ง และบันทึกการทดสอบเช่นเดียวกันกับ ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป ซึ่งการติดตั้ง SSHD ก็เพียงนำสายออกจาก ฮาร์ดดิสก์ เดิม มาเสียบกับฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่ที่เป็น SSHD

สรุปผลการทดสอบการติดตั้ง Windows  10 ผ่านทาง USB บนคอมตัวเดียวกัน

  • ติดตั้ง Windows 10 ด้วย ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป ใช้เวลา 17 นาที
  • ติดตั้ง Windows 10 ด้วย SSHD ใช้เวลา 12 นาที

การเปิดเครื่องปิดเครื่อง ทดสอบ 3 ครั้ง แล้วเลือกเวลาที่เปิดและปิดเร็วที่สุดของฮาร์ดดิสก์ทั่วไป และSSHD

  • เปิดเครื่อง ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป96 วินาที SSHD 16.63 วินาที
  • ปิดเครื่อง ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป11 วินาที SSHD 12.55 วินาที

ข้อมูลสเปคฮาร์ดดิสก์ บนโปรแกรมทดสอบ

seagate-sshd-review-07

ข้อมูลทั่วไปของ HDD บนโปรแกรม Crystaldiskinfo

seagate-sshd-review-08

ข้อมูลทั่วไปของ SSHD จาก SEAGATE บนโปรแกรม Crystaldiskinfo

ทดสอบการอ่านข้อมูลเขียนข้อมูลครั้งที่ 1

seagate-sshd-review-09

ด้านซ้ายฮาร์ดดิสก์ทั่วไป  กับ ด้านขวา SSHD

ทดสอบการอ่านข้อมูลเขียนข้อมูลครั้งที่ 2

seagate-sshd-review-10

ด้านซ้ายฮาร์ดดิสก์ทั่วไป  กับ ด้านขวา SSHD

ทดสอบฮาร์ดดิสก์ด้วยโปรแกรม TuneHD

seagate-sshd-review-11

ผลการทดสอบการอ่านข้อมูล เขียนข้อมูลบนตัวฮาร์ดดิสก์ทั่วไป  Read 225MB/s  Write 203 MB/s ปล่อยทิ้งไว้นาน 14 นาที

seagate-sshd-review-12

ผลการทดสอบการอ่านข้อมูล เขียนข้อมูลบนตัว SSHD จาก Seagate  Read 439 MB/s  Write 320 MB/s ปล่อยทิ้งไว้นาน 14 นาที

จะเห็นได้ว่าการอ่านและการเขียนข้อมูลนั้น SSHD ของ Seagate จะไวกว่า ฮาร์ดดิสก์ทั่วไปทั้งนี้ตัว SSHD ของ Seagate มีเทคโนโลยี Seagate Adaptive Memory ที่จะจดจำข้อมูลที่ใช้งานบ่อยๆ และบันทึกลงหน่วยความจำ NAND แฟลซ 8GB คุณจึงเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

จากประสบการณ์ที่ได้ลองใช้ทั้ง ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป และ SSHD แล้ว  ฮาร์ดดิสก์ทั่วไป หากใช้ไปนานๆความเร็วจะลดลงเรื่อยๆเพราะการอ่านเขียนข้อมูลบ่อยๆ แต่ SSHD นั้น สามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้คอมนานแค่ไหนความเร็วก็ไม่ลดลงแต่อย่างใด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและความบันเทิงของคุณด้วย เช่น การเล่นเกม 3มิติ ที่รันเกมได้เร็วขึ้น และการตัดต่อวีดีโอระดับ HD ที่สามารถ render เป็นคลิปได้รวดเร็วขึ้น เพราะการอ่านเขียนของ SSHD ที่รวดเร็วกว่าฮาร์ดดิสก์ทั่วไป ดังนั้นการเปลี่ยนมาใช้เป็น SSHD ก็ส่งผลกระทบต่อการทำงานของคุณที่เร็วขึ้น และดีขึ้นเช่นกัน

seagate-sshd-review-13

หากคุณต้องการ Clone ฮาร์ดดิสก์ตัวเก่า มายัง sshd ตัวใหม่ แต่ยังเป็นผู้ใช้มือใหม่ ทำไม่เป็น ก็สามารถจัดการได้ด้วย DiscWizard  โหลดฟรีจากเว็บ Seagate แล้วทำการโอนถ่ายข้อมูลจาก ฮาร์ดดิสก์ ตัวเก่ามาลง SSHD ได้

seagate-sshd-review-14

โดยสรุปแล้วหากคุณมีคอมฯเครื่องเก่า ที่ยังใช้งานได้ แต่อยากได้ความเร็วที่ดีขึ้น นอกจากจะเพิ่มแรม เปลี่ยนซีพียูแล้ว การเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์จากเดิมเป็นแบบธรรมดา มาเป็น SSHD ก็เป็นอีกทางเลือกนึง เพื่อมาแลกกับความเร็วแรงที่ดีขึ้น และช่วยปกป้องข้อมูลของคุณได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ทั่วไปด้วย

สำหรับเรื่องราคา เท่าที่สำรวจราคา SSHD ของ SEAGATE ขนาด 1 TB ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,590 – 2,950 บาท ส่วน ขนาด 2 TB ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,950 – 4,250 บาท ซึ่งราคาจะแตกต่างกันแล้วแต่ผู้ขายและส่วนลด ดังนั้นท่านผู้อ่านอาจลองสำรวจราคากันดูก่อน

 

ที่มา:it24hrs

วันพุธ, พฤศจิกายน 25, 2558

วิธีตั้งค่า Windows ให้แสดงตัวอักษรใหญ่ขึ้น แก้ปัญหากวนใจผู้สูงอายุ

ด้วยในปัจจุบันนี้ คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ส่วนใหญ่จะตั้งความละเอียดหน้าจอ Resolution สูงสุดอยู่เสมอ ทำให้ทั้งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน หรือวัยผู้สูงอายุ ก็เจอปัญหาตัวอักษรเล็กเหลือเกิน เรามาทำให้ตัวอักษรบนระบบปฏิบัติการ Windows นี้ตัวใหญ่ขึ้น เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น แม้ว่าความละเอียดหน้าจอจะแสดงระดับสูงสุดก็ตามสำหรับผู้ใช้ ระบบปฏิบัติการ Windows 7  หรือ Windows 8

ให้เข้าไปที่ Control Panel  ( กรณีผู้ใช้ Windows 7 เข้าไปที่ปุ่ม start แล้ว พิมพ์ที่ช่อง search ว่า Control Panel , ส่วนผู้ใช้ Windows 8 ให้กด ctrl+q แล้วพิมพ์ที่ช่อง search ว่า control panel เช่นกัน ) >> จากนั้นเลือกที่ Display

enlarge-display-text-windows-setting-01
คุณก็จะเห็นหน้าจอปรับตัวอักษร แล้ว มีให้เลือก  3 ระดับคือ  smaller , medium , larger  เหมือนกัน หากพอใจขนาดที่เค้าตั้งให้ก็เลือกขนาดที่ชอบได้เลย แล้วคลิก Apply จบขั้นตอน แต่ถ้าดูแล้วใหญ่ไม่พอละก็ ยังสามารถปรับขนาดตัวอักษรที่ปรับได้ละเอียดขึ้นกว่า smaller , medium , larger   เมื่อสักครู่นี้ได้ โดยสามารถทำได้ดังนี้

enlarge-display-text-windows-setting-02

สำหรับผัู้ใช้ Windows 7 จากหน้าจอ smaller , medium , larger   ให้เลือกที่ Set custom text size (DPI) ตรงรายการเมนูด้านซ้าย

enlarge-display-text-windows-setting-03

กรณีใช้ Windows 8 ให้เลือกที่ Custom sizing options

enlarge-display-text-windows-setting-04

แล้วก็เลื่อนซ้ายขวาเพื่อปรับขนาดตัวอักษรใหญ่เล็กแบบละเอียดได้ตามต้องการ พอใจขนาดแล้ว ให้คลิก okเสร็จสิ้นการตั้งค่า

enlarge-display-text-windows-setting-05

ก็จะได้ขนาดพิเศษ Custom ดังรูปด้านบน

ส่วนกรณีผู้ใช้ Windows 10

จากหน้าจอ desktop หลัก ให้คลิกปุ่ม start แล้วเลือกที่ Settings > เลือก  System.

enlarge-display-text-windows-setting-06

จะปรากฎหน้าต่าง เลือกแท็บด้านซ้ายที่ Display  แล้วสามารถเลือกขนาดตัวอักษรที่จะแสดงได้ที่ ตัวเลื่อนchanging the size of your text and “other items ซึ่งก็ไม่ต่างจาก Windows 7 และ Windows  8 ก็มี 3 ระดับเช่นกัน

enlarge-display-text-windows-setting-07

หากไม่พอใจขนาดอักษร 3 ขนาดบน Windows 10 ให้คลิกที่ Advanced display settings  >> แล้วเลือก  set a custom scaling level เพื่อปรับขนาดอย่า่งละเอียดอีกครั้ง

แค่นี้ ผู้ที่ทำงานคอม และผู้สูงอายุ สามารถอ่านตัวอักษรบนคอมพิวเตอร์ได้อย่างสบายตาขึ้น หากคุณมีปัญหาเรื่องมองตัวอักษรเล็กๆก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูกันได้เลย

ข้อมูลจาก it24hrs  PC WORLD

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 19, 2558

รวมวิธี ยกเลิก sms ขยะ sms โฆษณา ทุกค่าย ได้ผลชะงัด!

ปัญหาหนึ่งของคนมีมือถือใช้ ทั้งสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟนก็คือ มี Sms โฆษณา เข้ามาเรื่อยๆ บางอันหากกดพลาดก็ต้องเสียเงินค่าใช้บริการ แต่ถึงแม้ไม่ต้องเสียเงิน มันก็ยังน่ารำคาญอยู่ดี และนี่คือเทคนิคในการ ยกเลิก sms โฆษณา ครับ

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา กวนใจ!

ขั้นตอนแรกของทุกค่ายมือถือจะเริ่มต้นด้วยการกด *137 แล้วกดโทรออกเหมือนกันหมด แต่ที่ต่างกันคือขั้นตอนการยกเลิกของค่าย ซึ่ง infographic ของ it24hrs.com ได้รวบรวมรายละเอียดเอาไว้อย่างละเอียดแล้ว ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา AIS

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา สำหรับค่าย AIS

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา CAT

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา สำหรับค่าย CAT

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา DTAC

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา สำหรับค่าย DTAC

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา TOT

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา สำหรับค่าย TOT

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา Truemove H

วิธี ยกเลิก sms โฆษณา สำหรับค่าย Truemove H

ที่มา : it24hr.com,tech.mthai.com

วันอังคาร, ตุลาคม 20, 2558

แนะนำ 4 สมาร์ทโฟนราคาประหยัด สำหรับคนงบจำกัดแต่ต้องการเครื่องคุณภาพดี

แนะนำ 4 สมาร์ทโฟนราคาประหยัด สำหรับคนงบจำกัดแต่ต้องการเครื่องคุณภาพดี

ช่วงนี้เมื่อมองออกไปจะเห็นว่าสมาร์ทโฟนหลากหลายแบรนด์ก็ได้ปล่อยสมาร์ทโฟนราคาเบาๆออกมามากมาย แถมสเปคยังน่าสนใจมากอีกด้วย สำหรับคนที่ไม่ยึดติดแบรนด์ ผมว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและน่าสนุกที่จะได้เลือกสรรค์ สมาร์ทโฟนที่โดนใจในราคาเบาๆมากๆเลยครับ สำหรับในวันนี้ผมจะรวบรวมสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากๆในขอบเขตราคาต้องประหยัด^^ มาแนะนำให้กับเพื่อนๆ ได้เลือกซื้อกัน จะมีรุ่นอะไรบ้างมาชมไปด้วยกันเลยครับ

alcatel-onetouch-flash-2-launches-with-13mp-camera-android-5-1-lollipop-492393-4

Alcatel Flash 2

จะวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วครับผ่าน Lazada ในราคา 4590 บาทในวันที่ 5 ตุลาคม เวลา 10.00 – 12.00 น. (จำหน่ายแบบแฟลชเซลส์) สำหรับสเปค Alcatel Flash 2 มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720×1280 pixels ความหนาแน่นสูงถึง 294 ppi และมีมุมมองหน้าจอกว้างถึง 178 องศา และมาพร้อมฟังก์ชั่นปรับแต่งหน้าจอ Mira Vision, ชิปเซ็ต MediaTek MT6753 octa-core 1.3GHz 64 bit, GPU Mali-T720MP4, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 16GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 128GB

รองรับการใช้งาน 2 ซิมและรองรับ 4G ทั้ง 2 ซิมด้วยนะครับและแบตเตอรี่ให้มาจุใจ 3000 mAh เลยทีเดียว และกล้องความละเอียด 13MP ใช้เซนเซอร์ Samsung S5K3M2 ISOCELL Sensor จับโฟกัสได้ฉับใวด้วย PDAF และค่ารูรับแสงอยู่ที่ F2.0 บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P และมีจุดเด่นบริเวณกล้องเรียกว่า gSight พร้อมไฟแฟลชคู่ LED และมีมุมมองกว้างถึง 80 องศา

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสง F2.2 มีจุดเด่นที่รองรับ AF ด้วยนะครับสำหรับกล้องหน้าและมีไฟแฟลชช่วยในการถ่าย Selfie ในที่แสงน้อย และมีมุมมองกว้างถึง 84 องศสช่วยให้ถ่าย Selfie แล้วดูไม่อึดอัด และแน่นอนครับมาพร้อม Beauty Mode ให้ฟรุ้งฟริ้งกันไปเลย และมีโหมด V Gesture ช่วยในการถ่าย Selfie อีกด้วยและทำงานบน Android 5.1.1 Lollipop ตั้งแต่เปิดตัว Alcatel Flash 2 จะมีให้เลือก 2 สีได้แก่ Volcanic Grey และ Mica White

Lenovo A7000 Plus_Press Release-2

Lenovo A7000 Plus

ต่อยอดมาจาก A7000 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Lenovo ที่ใส่ระบบเสียง Dolby Atmos มาให้ การกลับมาของ Lenovo A7000 Plus นั้นน่าสนใจครับเพราะอัพเดตสเปคมาให้จุใจทีเดียวทั้ง จอแสดงผลแบบ Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว, ระบบเสียง Dolby Atmos, ชิปเซ็ต MediaTek MT6752M Octa Core 1.7 GHz, หน่วยความจำ 16 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้, RAM 2GB, กล้องความละเอียด 13MP และกล้องหน้าความละเอียด 5MP, แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh

จะวางจำหน่ายแบบแฟลชเซลส์กับ Lazada ในวันพฤหัสบดี ที่ 24 กันยายนนี้ตั้งแต่เวลา 10:00 น. จนถึง 12:00 น. ในราคา 6290 บาท แถมแพ็กเกจโทรและเล่นอินเตอร์เน็ตฟรีจาก True Move H มูลค่า 6000 บาท

asus-zenfone-2-laser-1

Asus Zenfone 2 Laser

Asus Zenfone 2 Laser เป็นรุ่นที่น่าสนใจครับราคา 4990 บาทมาพร้อมจุดขาย Laser Autofocus ช่วยให้จับภาพได้อย่างแม่นยำแม้ในที่แสงน้อย สเปคอื่นๆก็ดูไม่เลวเลยครับ รองรับ 4G LTE หน้าจอ 5 นิ้วความละเอียด HD 720P ราคาเบาๆแต่ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 4, Snapdragon 410, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 16GB และเพิ่มภายนอกได้ถึง 128GB, กล้องความละเอียด 13+5MP และแบตเตอรี่ 2400 mAh สำหรับราคาเปิดตัวที่ 4990 บาท

1b

Xiaomi MI4

อดีตสมาร์ทโฟนสุดเร้าใจที่ใครๆก็อยากได้ ล่าสุดราคาลงมาเหลือเพียง 6990 บาทแล้วครับสำหรับ Xiaomi MI4 โดดเด่นกรอบตัวเรือนทำจากสแตนเลส ชิปเซ็ตตัวแรง Snapdragon 801, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 16GB (เพิ่มไม่ได้), หน้าจอขนาด 5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P, แบตเตอรี่ความจุ 3080 mAh รองรับ Quick Charge 2.0, กล้องความละเอียด 13MP และกล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง F1.8 ทั้งกล้องหน้าและหลัง แต่จุดด้อยคือไม่รองรับ 4G บ้านเรานะครับ ว่าไปผมว่ารุ่นนี้ละครับ สุดคุ้มจริงๆในช่วงนี้

เครดิต:appdisqus

วันจันทร์, สิงหาคม 24, 2558

USB Type-C คืออะไร รู้จักกับ USB Type-C และ 3 สิ่ง ที่เราควรรู้เกี่ยวกับมัน

apple-usb-type-c-macbook-700x337

ในงาน Apple Event ที่ผ่านไป พอร์ท USB Type-C ที่มาพร้อมกับ MacBook รุ่นใหม่ เป็นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย และสำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ดียังไง เราจะมาแนะนำให้รู้จักกันครับ สิ่งเราจะสรุปมันออกมาเป็็น 3 สิ่งสำคัญของเจ้า USB Type-C พอร์ทแห่งอนาคตที่กำลังจะมาแทนที่พอร์ท USB แบบปัจจุบันกันครับ

1. มันเชื่อมต่อง่ายมาก

USB แบบเดิม เราจะต้องหันให้ถูกด้าน ซึ่งไม่ง่ายนักหากต่อในที่มืด แต่ USB Type-C เราสามารถเสียบด้านไหนก็ได้

2. มันส่งข้อมูลเร็วกว่าเดิม แถมจ่ายไฟได้มากกว่าเดิมอีกด้วย

USB Type-C สามารถส่งข้อมูลได้ด้วยอัตราสูงสุด 10Gbps เร็วกว่า USB 3.0 ในปัจจุบันถึง 2 เท่า ที่ทำได้อยู่ที่ 5Gbps และการจ่ายไฟ USB Type-C  ส่งกระแสไฟได้มากถึง 20 Volts/5 amps เทียบกับปัจจุบันที่จ่ายไฟได้เพียง 4 Volts/ 1.8 amps แตกต่างกันเกือบ 5 เท่า ทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ USB Type-C ไม่จำเป็นต้องมีหม้อแปลงไฟอีกต่อไป การชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ก็แค่เสียบ USB Type-C ชาร์จได้เลยนั่นเอง

3. พอร์ทเดียวทำได้ทุกอย่าง

USB Type-C ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่แทนได้ทุกพอร์ท มันสามารถรับส่งข้อมูล, ชาร์จไฟ, ทำหน้าที่ Display Port แต่ปัญหาในตอนนี้ คือ อุปกรณ์ในท้องตลาดยังแทบไม่มีตัวไหนที่หันมาใช้ USB Type-C เลย แต่ยังโชคดีที่มันใช้งานร่วมกับพอร์ทต่างๆ ในปัจจุบันได้อยู่ด้วยการแปลงหัวผ่านอแดปเตอร์

กว่าที่ USB Type-C จะแพร่หลายกลายเป็นพอร์ทมาตรฐาน ผมว่าเราคงต้องให้เวลามันอีกสักพัก งานนี้มันมาแน่ จะเร็วจะช้าเท่านั้นเอง ส่วนตัวคิดว่าภายในสิ้นปีนี้ น่าจะแพร่หลายมากขึ้นและเข้ามาแทนที่ USB แบบเดิมภายในไม่เกิน 2 ปี ข้างหน้า

 

แหล่งที่มา : www.thaiware.com

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 16, 2558

การแก้ไข AsusSetup iniis lost ของ Windows

Error-Asussetup-1

สำหรับคนที่ใช้ Mainboard ของ ASUS สำหรับคอมพิวเตอร์ประกอบ หรือ Notebook Asus แล้วกำลังเจอกับปัญหาที่ว่าหลังจากที่ทำการเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วจะเกิด Error ที่ขึ้นว่า C:\user\ตามด้วยชื่อ\AppData\local\Temp\xxxxxLog.iniis host

การแก้ไข AsusSetup ของการเปิด Widows

1. ทำการเปิด Task Scheduler ของ Windows  > คลิก ASUS

โดยอาจจะทำการในช่อง Search : Task Scheduler

Error-Asussetup-2

2. จากนั้นจะเห็น Jobs ให้ทำการคลิกขวาแล้วเลือก Disable ให้หมด

Error-Asussetup-3

จากนั้นลองทำการ Restart คอมพิวเตอร์ หลังจากเปิด Windows ขึ้นมาก็จะไม่เจอกับ Error อีกต่อไปแล้วครับ

เครดิต:http://www.itithai.com/article-tips/windows/806-fix-local-temp-error-lost.html

วันจันทร์, พฤษภาคม 11, 2558

แอพแนะนำ [android]: แอพรายชื่อใหม่ที่เจ๋งที่สุด Drupe แอพเดียวเอาอยู่ทั้งโทรหา, ข้อความ, Facebook, Line และ Email

แอพแนะนำ [android]: แอพรายชื่อใหม่ที่เจ๋งที่สุด Drupe แอพเดียวเอาอยู่ทั้งโทรหา, ข้อความ, Facebook, Line และ Email

แอพพลิเคชั่นตัวเด็ดมาแนะนำกันวันนี้ นับเป็นตัวที่มีความน่าใช้สูงมากครับ เป็นแอพฟรีเช่นเคย นั้นคือแอพพลิเคชั่น Drupe ซึ่งเจ้าแอพพลิเคชั่น Drupe ตัวนี้เป็นแอพใหม่ครับ มีหน้าที่การทำงานคล้ายๆ กับแอพพลิเคชั่นรายชื่อติดต่อหรือแอพพลิเคชั่นโทรออก ที่ผมบอกว่าคล้าย เพราะความสามารถของมันมากมายกว่านั้นไปอีกสักเล็กน้อย และวิธ๊การใช้งานของมันก็ต่างจากเดิมไปอีกสักหน่อยครับ

Screenshot_2015-05-11-07-29-05-000-horz

หลังจากติดตั้งแอพพลิเคชั่น Drupe ลงเครื่องแอนดรอยด์ของเราแล้ว ก็จะเห็นว่าการทำงานของเจ้าแอพตัวนี้จะเป็นแบบลอยเหนือหน้าจอการทำงานของแอพอื่นๆ ทั้งหมดครับ โดยจะซ่อนตัวอยู่ในไอคอนจุดไข่ปลาด้านข้างของหน้าจอ เวลาเรียกใช้งาน ก็สามารถเรียกออกมาได้โดยการสไลด์จุดไข่ปลาออกมากลางหน้าจอนั้นเองครับ ทำให้แอพพลิเคชั่น Drupe ทำงานได้ทุกหน้า แม้แต่หน้าล็อกสกรีน

Capture

การทำงานของแอพ Drupe จะมีแยกเป็นสองฝั่ง นั้นคือฝั่งรายชื่อบุคคลและฝั่งรายชื่อของแอพพลิเคชั่นที่ใช้ติดต่อ ซึ่งรายชื่อทั้งสองฝั่งนี้เราสามารถกำหนดเองได้ว่า จะให้แสดงเป็นแอพพลิเคชั่นอะไรบ้างตามที่มีให้เลือก และทางฝั่งรายชื่อ เราสามารถเลือกให้แสดงว่าจะเป็นรายชื่อคนโปรดหรือรายชื่อบุคคลที่ติดต่อไปล่าสุดครับ เราสามารถกำหนดกลุ่มคน และสามารถเพิ่มรายชื่อเข้าไปได้เอง โดยการควบคุมผ่านการสไลด์ซ้ายขวาขึ้นลง

Screenshot_2015-05-11-07-30-06-420-horz

ในการใช้งาน เพียงแค่เราลากรายชื่อที่เราต้องการติดต่อจากฝั่งซ้าย ไปยังแอพพลิเคชั่นที่เราต้องการติดต่อในฝั่งขวา เท่านี้เราก็สามารถติดต่อบุคคลนั้นได้ทันทีเลยครับ ในกรณีที่ตัวแอพพลิเคชั่นยังไม่รู้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใครในแอพพลิเคชั่นที่เราต้องการใช้งาน ก็เพียงระบุให้แอพ Drupe รู้ไว้ในครั้งแรกก็เรียบร้อยแล้วครับ เช่นลากรายชื่อที่ต้องการไปยังแอพ Line ถ้าแอพยังไม่ทราบว่าคือใคร ค้นหาและระบุให้ถูกตัวในครั้งแรกครั้งเดียว

Screenshot_2015-05-11-07-36-51-839-horz

ถ้ารายชื่อไม่ได้อยู่ในแถบด้านซ้ายมือ ก็สามารถพิมพ์ชื่อหรือเบอร์โทรได้เช่นกัน

Screenshot_2015-05-11-07-38-39-339

ก็เป็นแอพพลิเคชั่นฟรีดีๆ อีกหนึ่งตัวจากระบบแอนดรอยด์ครับ แอพแบบนี้คงมีระบบเดียวที่ทำได้ ^^ เพื่อนๆ สามารถดาวน์โหลดไปลองเล่นลองใช้งานกันได้จากลิงก์ด้านล่างที่แนบเอาไว้ให้ด้านท้ายบทความครับ แล้วเจอกันใหม่ในแอพพลิเคชั่นหน้า สวัสดีครับ

รองรับ: Android 4.1 ขึ้นไป ขนาด: 11MB ราคา: ฟรี

unnamed

playstore

DOWNLOAD

ที่มา appdisqus.com

วันศุกร์, มกราคม 16, 2558

Xiaomi เปิดตัว Mi Note Pro เรือธงตัวจริง มาพร้อมจอ 2K, Snadragon 810 และแรม 4GB

mi-note-pro-2.jpg

นอกจาก Xiaomi จะเปิดตัว Mi Note แฟ็บเล็ตรุ่นใหม่ของค่ายแล้ว Xiaomi ยังมีทีเด็ดอีกหนึ่งรุ่นคือ Xiaomi Mi Note Pro ซึ่งเป็นเรือธงตัวจริงของค่ายในปีนี้ที่มาพร้อมกับสเป็คที่แรงมากๆเลยทีเดียว โดย Xiaomi Mi Note Pro นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ 5.7 นิ้ว 2K (2560×1440 พิกเซล ที่ 515ppi) นอกจากนี้ยังใช้ซีพียูตัวล่าสุด octa-core Snapdragon 810 ที่เป็นซีพียูแบบ 64 บิท รองรับ LTE Cat.9 ที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 450Mbps

Xiaomi Mi Note Pro ยังให้แรมมามากถึง 4GB LPDDR4, ความจุ 64GB eMMC 5.0, จีพียู Adreno 430 ส่วนสเป็คอื่นๆนั้นไม่แตกต่างจาก Mi Note รุ่นปกติ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง Sony ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS, กล้องหน้า 4 ล้านพิกเซล, MIUI 6

Xiaomi Mi Note Pro จะวางขายในราคา 3,299 หยวน (ราวๆ 17,500 บาท)

10570292_827433953958866_4081983171301209598_n

 

เครดิต: whatphone.tv

วันพฤหัสบดี, มกราคม 15, 2558

Tablet : TECLAST X98 Air แท็บเล็ต 9.7 นิ้วสเปคแรงไม่ธรรมดา กับนางแบบหน้าตากระชากใจ !!

หากพูดถึงแท็บเล็ตจีนทุกวันนี้ก็ถือว่าประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้เป็นรองแบรนด์ใหญ่ๆในตลาดโลกเลย ทั้งเรื่องของสเปคหรือการดีไซน์ ล่าสุดทาง TECLAST ก็ได้เปิดตัว TECLAST X98 Air 3G แท็บเล็ตรุ่นล่าสุด

โดยมาพร้อมกับสเปคสุดโหด อย่างหน้าจอ 9.7 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิเซล หน่วยประมวลผล Intel Atom Baytrail-T Z3736F Quad-core 2.16 GHz , แรม 2 GB , ความจุภายใน 32 GB , แบตเตอรี่ 8,500 mAh , กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล , กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล เป็นต้น ราคาเปิดตัวสำหรับเวอร์ชั่นAndroid อยู่ที่ 1,099 หยวน (ประมาณ 5,890 บาท) และ 1,199  หยวน (ประมาณ 6,420 บาท)สำหรับเวอร์ชั่น Windows 8.1 ที่บรรยายมาก็พอจะเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมล่ะครับ เดี๋ยวๆอย่ามัวแต่มองภาพนางแบบเพลินสิ ><

สำหรับในเรื่องดีไซน์นั้นก็ออกแนว iPad Air เลยล่ะ แต่ก็สวยมากๆเลยเนอะ (หมายถึงอะไรน่ะ 55) ก็เอาเป็นว่าแนะนำกันคร่าวๆประมาณนี้ สำหรับเพื่อนๆที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของน้องเค้า เอ้ย...ตัวแท็บเล็ตได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยครับผม

 

เครดิต: http://www.techxcite.com/topic/20414.html